เว็บไซต์บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ถึงแถลงการณ์ของสวนสัตว์ซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา หลังเกิดเหตุเด็กชายวัย 4 ปีตกลงไปในสถานที่เลี้ยงของกอริลล่าที่ชื่อว่า “ฮาแรมเบ” ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยิงสังหารกอริลล่าตัวดังกล่าวเพื่อช่วยชีวิตเด็กเอาไว้จนเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก โดยเธน เมย์นาร์ด ผู้อำนวยการสวนสัตว์ซินซินเนติ ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกครั้งก็จะตัดสินใจแบบเดียวกัน
เมย์นาร์ด ระบุว่า มันเป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะพูดว่าควรทำอะไรที่ต่างออกไปหลังเหตุการณ์จบลงแล้วและเด็กปลอดภัยแล้ว แต่ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์นั้นไม่เข้าใจชีววิทยาของสัตว์และอันตรายที่เด็กกำลังเผชิญ
คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมาแสดงให้เห็น ฮาแรมเบ ลากเด็กไปในคู่น้ำในสถานที่เลี้ยง ขณะที่เมย์นาร์ด ระบุว่า “ฮาแรมเบ จับข้อเท้าลากหนูน้อยไปรอบๆ” ก่อนที่จะอุ้มขึ้นไปบนพื้นดิน และว่า กอริลล่าพยายามจะกินเด็ก แต่เวลานั้นกอริลล่ากำลังสับสนกับสิ่งรอบข้าง ผลจากเสียงกรีดร้องจากฝูงชน กอริลล่าจึงจับเด็กเอาไว้ก่อน
ด้านเจฟ คอร์วิน นักชีววิทยาสัตว์ป่าสหรัฐ ระบุว่า ตนไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่สวนสัตว์มีทางเลือกอื่น เพราะกอริลล่าเป็นสัตว์ที่มีพละกำลังมากกว่ามนุษย์ผู้ชาย 6-8 เท่า ขณะที่การยิงยาสลบสัตว์ใหญ่นั้นไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ มันอาจกินเวลาหลายนาที และจำเป็นต้องใช้ลูกดอกจำนวนมาก
รายงานระบุว่าฮาแรมเบ เกิดในที่เลี้ยงในรัฐเท็กซัสก่อนจะย้ายมาที่สวนสัตว์ซินซินเนติเมื่อปี 2557 โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์หวังว่า ฮาแรมเบ จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพาะพันธุ์ โดยในช่วง 46 ปีที่ผ่านมามีลูกกอริลล่าเกิดขึ้นจากการเพาะพันธุ์แล้ว 55 ตัว
ทั้งนี้ฮาแรมเบเป็นกอริลล่าที่ลุ่มตะวันตกเป็นชนิดที่มีจำนวนมากที่สุดในบรรดากอริลล่า 4 สายพันธุ์ อาศัยอยู่ในป่าฝนของทวีปแอฟริกากลาง กินพืชและผลไม้เป็นอาหารหลัก
