สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของพม่าที่ครั้งหนึ่งเรียกได้ว่าเป็น 1 ในประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจน่าประทับใจที่สุดในโลก เริ่มลดลงภายหลังเกิดเหตุน้ำท่วมรุนแรงหลายครั้ง กอปรกับการชะลอตัวของการลงทุนที่มีสาเหตุมาจากความไม่แน่นอนอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
รัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี นักต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นการยุติการปกครองภายใต้รัฐบาลทหารมายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ
นับเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับประเทศและเศรษฐกิจที่เหี่ยวเฉาภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร
ทว่าธนาคารโลกระบุว่า การเลือกตั้งและระยะเวลาที่ยาวนานในการเปลี่ยนผ่านและส่งมอบอำนาจระหว่างทั้ง 2 รัฐบาล ได้ฉุดรั้งอัตราการเติบโตในช่วงปีที่ผ่านมาส่งผลให้นักลงทุนยังคงเฝ้าระวังเพื่อรอให้สถานการณ์มีความชัดเจน
ธนาคารโลกระบุว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของพม่าระหว่างปีการเงิน 2558/59 จะอยูที่ 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดของโลก แต่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากอัตราการเติบโต 8.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีก่อนหน้า
ก่อนหน้านี้ เวิลด์แบงก์ ประเมินว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของพม่าจะอยู่ที่ 8.2 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558/59 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพม่าไม่ได้เปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ แต่ยืนยันว่าเศรษฐกิจของประเทศยังคงแข็งแกร่งในทุกแง่มุม
