น้ำมันดิบปรับขึ้น ขณะที่ตลาดวิตกปัญหาอิหร่าน

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการพุ่งขึ้นราว 10% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2016 ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการทะยานขึ้น 5% จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่ว่า สหรัฐอาจจะโจมตีอิหร่าน และการโจมตีดังกล่าวอาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางการขนส่งน้ำมันจากภูมิภาคตะวันออกกลาง ในขณะที่น้ำมันดิบกว่า 20% ในตลาดโลกมาจากภูมิภาคนี้

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนส.ค.ปรับขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.6% มาปิดตลาดที่ 57.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 75 เซนต์ หรือ 1.2% สู่ 65.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทางด้านราคาสัญญาล่วงหน้าน้ำมันเบนซินของสหรัฐพุ่งขึ้น 4% หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่โรงกลั่นของบริษัทฟิลาเดลเฟีย เอ็นเนอร์จี โซลูชันส์ในเมืองฟิลาเดลเฟีย ซึ่งถือเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ, การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กับชาติพันธมิตรจะประชุมกันในช่วงต้นเดือนก.ค., แนวโน้มที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐจะลดระดับลง และเหตเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันในเมืองฟิลาเดลเฟีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวว่า เขายกเลิกการโจมตีทางทหารต่ออิหร่าน หลังจากอิหร่านยิงโดรนสอดแนมของสหรัฐตก โดยปธน.ทรัมป์ระบุว่า การโจมตีอิหร่านจะส่งผลให้มีการสูญเสียชีวิตมากเกินไป ทางด้านเจ้าหน้าที่อิหร่านกล่าวว่า การโจมตีใดๆจะส่งผลกระทบในระดับภูมิภาคและในระดับระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อิหร่านยังกล่าวอีกด้วยว่า อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของอิหร่านไม่เห็นด้วยกับการเจรจา

Advertisement

ทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้หารือในวันศุกร์กับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งเป็นมกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบีย โดยเป็นการหารือเรื่องเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางและตลาดน้ำมัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image