บลูมเบิร์กจัดอันดับมหาเศรษฐีโลก เจฟฟ์ เบซอส เจ้าพ่ออเมซอนรวยสุดในโลก “เจริญ” เจ้าสัวแห่งไทยเบฟ รวยสุดในไทย
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม เว็บไซต์บลูมเบิร์ก รายงาน ดัชนีมหาเศรษฐีโลก 500 อันดับ ในช่วงครึ่งปีแรก พบว่า มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ได้แก่ เจฟฟ์ เบซอส เจ้าพ่อแห่งอเมซอน ที่มีทรัพย์สินรวมมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยอันดับ 2 นายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ที่มีทรัพย์สินรวม 107,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 3 คือนายแบร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าของอาณาจักรสินค้าหรู LVMH มีทรัพย์สินรวม 102,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนหุ้นผู้โด่งดัง มีทรัพย์สินรวม 84,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก มีทรัพย์สินรวม 76,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่มหาเศรษฐีไทย อันดับ 1 ได้แก่ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของไทยเบฟเวอร์เรจ ซึ่งอยู่อันดับที่ 75 ของโลก มีทรัพย์สินรวม 16,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยนายสารัชถ์ รัตนาวะดี เจ้าของ GULF ที่อยู่อันดับที่ 255 ของโลก ด้วยทรัพย์สินรวม 6,630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลำดับต่อมาคือนายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี อยู่อันดับ 287 ของโลก มีสินทรัพย์รวม 6,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนายสุเมธ เจียรวนนท์ อยู่อันดับ 358 ของโลก มีสินทรัพย์รวม 5,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ , นายจรัญ เจียรวนนท์ อยู่อันดับ 360 ของโลก มีสินทรัพย์รวม 5,220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ , นายมนตรี เจียรวนนท์ อันดับที่ 374 ของโลก มีสินทรัพย์รวม 5,110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนายชาญชัย รวยรุ่งเรือง หรือ เหยียน ปิน นักธุรกิจชาวจีนที่เปลี่ยนเป็นสัญชาติไทย อยู่อันดับ 488 ของโลก มีสินทรัพย์รวม 4,220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ บลูมเบิร์ก ตั้งข้อสังเกตว่าระดับความรวดเร็วของการมั่งคั่งเพิ่มขึ้นของกลุ่มเศรษฐี 14 คนในฝรั่งเศสมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นรวมกันถึง 78,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมปีที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้นะถึง 35 เปอร์เซ็นต์ โดยมีคนรวยในไทยสะสมทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดียวกันเร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ 33 เปอร์เซ็นต์ ต่อด้วย สิงคโปร์ 31 เปอร์เซ็นต์และ ญี่ปุ่น 24 เปอร์เซ็นต์ ส่วนระดับการเพิ่มของทรัพย์สินคนรวยในจีนนั้นเพิ่มขึ้นเพียง 17 เปอร์เซ็นต์และสหรัฐอเมริกา 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยบลูมเบิร์กระบุว่า ระดับความรวดเร็วในการเพิ่มขึ้นของทรัพย์สินของคนที่รวยที่สุดในแต่ละประเทศนั้นอาจแสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนที่ถ่างกว้างขึ้น เห็นได้ชัดจากกรณีของฝรั่งเศส ที่ตลอดครึ่งแรกของปีนี้เกิดการประท้วงเรียกร้องค่าแรงและเงินบำนาญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
