เอกสารลับหลุด เผยทูตอังกฤษ ประเมิน ทรัมป์ “ไร้กึ๋น”

เอกสารลับผู้ดีหลุด เผยทูตอังกฤษ ประเมิน ทรัมป์ “ไร้กึ๋น”

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม หนังสือพิมพ์ เดอะ เมล์ ออน ซันเดย์ เผยแพร่รายงานลับทางการทูตจากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี. สหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อรายงานกลับมายังกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี 2017 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดย เซอร์ คิม แดร์รอค เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้คำอธิบายถึงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลภายใต้การนำของทรัมป์ว่า “ไร้ความสามารถ” และ “ขาดประสิทธิภาพอย่างเด่นชัด” และยังประเมินไว้ด้วยว่า การบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์จะลงเอยในสภาพ “พลิกคว่ำพังพาบและลุกไหม้” และ “จบลงแบบไม่สง่างาม” อีกด้วย

“เราไม่เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะกลายเป็นฝ่ายบริหารที่มีสารัตถะมากกว่ารัฐบาลทั่วๆไป” เซอร์คิม ระบุไว้ในรายงานจากสถานทูตในวอชิงตัน โดยกำกับเพิ่มเติมไว้ว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาชุดนี้จะขาดประสิทธิภาพมากกว่าเดิม คาดเดาได้ยากกว่าเดิม แตกแยกเป็นฝักฝ่าย งุ่มง่าม ซุ่มซ่ามในเชิงการทูตและไร้ความสามารถมากกว่าเดิม โดยเดอะเมล์ ชี้ว่า ถ้อยคำที่รุนแรงที่สุดเป็นคำที่เซอร์คิม ใช้บรรยายถึงตัวประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเพิ่งเดินทางเป็นราชอาคันตุกะในสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 เมื่อเดือนที่แล้วว่า เป็นคน “ไม่อยู่กับร่องกับรอย” และ “ไม่มีความสามารถเหมาะสม” กับตำแหน่งประธานาธิบดี

ส่วนหนึ่งของบันทึกทางการทูตดังกล่าวเป็นบันทึกที่มีขึ้นหลังจากการเยือนแบบรัฐพิธีในครั้งนั้น ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และทีมงาน “เคลิบเคลิ้ม” กับการให้การต้อนรับของอังกฤษแต่อดเตือนไม่ได้ว่า อังกฤษอาจไม่ได้คงสถานะเป็น “ชาติที่ชื่นชอบที่สุดในรอบเดือน” เพราะ “ประเทศนี้ยังคงเป็นดินแดนที่อเมริกามาก่อนเป็นลำดับแรก” อยู่ต่อไป

รายงานข่าวระบุด้วยว่า เอกอัครราชทูตอังกฤษกล่าวไว้ในรายงานด้วยว่า กรณีที่ภายในทำเนียบขาว “มีการทะเลาะต่อสู้กันเองอย่างรุนแรงและโกลาหล” ซึ่งมีการรายงานในสื่อมวลชนสหรัฐอเมริกากันอย่างกว้างขวางแต่ตัวทรัมป์เองยืนยันว่าเป็น “เฟคนิวส์” นั้น “ส่วนใหญ่เป็นความจริงทั้งสิ้น”

Advertisement

หนึ่งในบันทึกในระยะหลังๆ มีชิ้นหนึ่งซึ่งเดอะเมล์ระบุว่าจัดทำขึ้นเมื่อ 22 มิถุนายน เซอร์คิมวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างประเทศว่าด้วยอิหร่านของ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้เกิดความตึงเครียดและเกรงกันว่าจะเกิดการปะทะกันด้วยกำลังทหารอยู่ในเวลานี้ ว่า”ไม่ปะติดปะต่อ” และ “มั่ว” ทั้งยังกล่าวหาด้วยว่า ข้ออ้างของทรัมป์ที่บอกว่า ยกเลิกการโจมตีตอบโต้กรณีที่โดรนของสหรัฐอเมริกาถูกจรวดต่อต้านอากาศยานของอิหร่านยิงตกเพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสียชีวิตคน 150 คนนั้น “ไม่น่าจะเป็นความจริง” แต่เป็นไปได้มากกว่าว่า

สหรัฐอเมริกาไม่ได้มีความพร้อมพอและทรัมป์เอง เป็นกังวลว่าจะส่งผลในทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตนเคยให้สัญญาไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 ในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปี 2563 นี้
เซอร์ คิม แดร์รอค ได้รับการยอมรับกันว่าเป็นนักการทูตที่มีประสบการณ์สูงสุดคนหนึ่งของอังกฤษ ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมกราคม ปี 2559 ก่อนหน้าที่ทรัมป์ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปลายปีเดียวกันนั้น ทั้งนี้คาดกันว่า รายละเอียดของบันทึกทางการทูตครั้งนี้คงรั่วไหลออกมายังมือสื่อมวลชนจากข้าราชการพลเรือนที่ทำงานเกี่ยวข้องอยู่กับสายงานด้านนี้

ทางด้านสำนักงานกระทรวงต่างประเทศอังกฤษไม่ได้แสดงปฏิกิริยาที่แสดงให้เห็นว่า รายงานทางการทูตดังกล่าวไม่ได้เป็นรายงานที่แท้จริง ตรงกันข้ามโฆษกของกระทรวงฯผู้หนึ่งกลับให้ความเห็นเมื่อถูกสอบถามเรื่องนี้ว่า สาธารณชนชาวอังกฤษคงคาดหวังว่า บรรดาเอกอัครราชทูตทุกคนของเรา ต้องนำเสนอข้อมูลที่ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมาที่ไม่สามารถลบเลือน หรือขัดแย้งได้ต่อรัฐมนตรีทั้งหลาย ทัศนะของเอกอัครราชทูตทั้งหลายไม่จำเป็นต้องเป็นความเห็นของรัฐมนตรีต่างๆ หรือรัฐบาลทั้งรัฐบาลเสมอไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image