บัวแก้วเผยพาสปอร์ต 10 ปีเริ่มใช้ได้กลางปี 2563

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าโครงการประกวดราคาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ระยะที่ 3 ว่า กระทรวงได้ลงนามกับผู้ชนะประมูลอี-พาสปอร์ตระยะที่ 3 ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคือกลุ่ม DGM Consortium โดยบริษัท Data Product Toppan Form (บริษัท ดาต้าโปรดักส์ ทอปปัง ฟอร์ม) ขณะนี้อยู่ในช่วงที่บริษัทจะเข้ามาเตรียมความพร้อมระบบงานและติดตั้งระบบซึ่งจะมีเวลา 9 เดือน คาดว่าหนังสือเดินทางรุ่นใหม่จะสามารถเริ่มใช้ได้ในราวกลางปี 2563

นายธานีกล่าวว่า แม้การให้บริการประชาชนในการทำอี-พาสปอร์ตจะเป็นที่ยอมรับว่ามีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แต่เป้าหมายในการผลิตอี-พาสปอร์ตรุ่นใหม่คือการพัฒนาการให้บริการกับประชาชนให้ดียิ่งขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ภายใต้เอกสารขอบเขตงาน(ทีโออาร์)ใหม่กำหนดให้ร่นระยะเวลาการทำพาสปอร์ตให้เร็วขึ้น ซึ่งจากปัจจุบันที่ใช้เวลาเฉลี่ย 20 นาที จะลดลงเหลือไม่เกิน 12 นาที

นายธานีกล่าวว่า นอกจากนี้ยังจะมีการเพิ่มจุดให้บริการโดยจะเพิ่มชุดอุปกรณ์ประจำจุดบริการทำหนังสือเดินทางจากในปัจจุบันที่ 313 ชุด เป็น 500 ชุด หรือเพิ่มขึ้น 187 ชุด ซึ่งจะทำใหสามารถเปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑลได้เพิ่มขึ้นได้ 15 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้กับประชาชนมากขึ้น ขณะที่เวลาในการทำเล่มหนังสือเดินทางจะลดลงจาก 2 วันเหลือเพียง 1 วันเท่านั้น

รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า สำหรับอายุพาสปอร์ตนั้นจะเปิดให้ประชาชนเลือกได้ว่าต้องการเล่มพาสปอร์ต 5 ปี หรือ 10 ปี ยกเว้นแต่ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่จะอนุญาตให้ทำหนังสือเดินทาง 5 ปีเท่านั้น เพราะเด็กและเยาวชนรูปหน้ายังมีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของราคาพาสปอร์ตกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาและจะมีการประกาศให้ทราบต่อไป เพราะต้องมีการคำนวนต้นทุนและแก้ไขกฎระเบียบภายในของกระทรวงอีกด้วย

Advertisement

นายธานีกล่าวว่า ในส่วนของข้อมูลทางชีวมาตรที่ถือว่ามีความสำคัญในการพิสูจน์ตัวตนของผู้ที่ถือหนังสือเดินทาง อี-พาสปอร์ตระยะที่ 2 ข้อมูลชีวมาตรที่เก็บคือรูปหน้าและลายนิ้วมือ ขณะที่อี-พาสปอร์ตระยะที่ 3 สิ่งที่เพิ่มคือการเก็บม่านตาเข้ามาด้วย ซึ่งจะช่วยให้การตรวจสอบตัวบุคคลแม่นยำขึ้น ในส่วนของเทคโนโลยีวินโดว์ล็อกของกลุ่มดีจีเอ็มปัจจุบันมีประเทศที่ใช้อยู่คือฟินแลนด์และสิงคโปร์ และมีอีกหลายประเทศแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในข้อตกลงของบริษัทที่จะต้องไม่เปิดเผยความลับของลูกค้า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบลายพาสปอร์ตใหม่ให้สะท้อนความเป็นไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะประชาสัมพันธ์ประเทศด้วย

ด้านนายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า การประมูลอี-พาสปอร์ตระยะที่ 3 จะมีการจัดทำพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม หรือสัญญา 7 ปี แล้วแต่ว่าจะถึงกำหนดใดก่อนกัน ในส่วนของการเปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ เบื้องต้นคิดว่าน่าจะเปิดเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ 2-3 แห่ง หรืออาจเพิ่มชุดบริการในจุดที่มีการเปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวอยู่แล้ว โดยจะดูจากปริมาณผู้มาใช้บริการเดิม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image