สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ย่านแมนฮัตตัน ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เจอกับไฟดับครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังเกิดหม้อแปลงระเบิด จนส่งผลกระทบต่อระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน ร้านค้า และโรงละครบรอดเวย์ รวมไปถึงบริเวณจัตุรัสไทม์สสแควร์ ที่เคยเต็มไปด้วยแสงสี ก็ปิดไฟมืด ก่อนที่ไฟจะกลับมาใช้ได้ตามปกติในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ข่าวระบุว่า ไฟฟ้าเริ่มดับตั้งแต่เวลา 18.47 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น เกิดขึ้นตั้งแต่แนวถนนเวสต์ ที่ 42 ไปจนถึงเวสต์ 72 แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือผู้ได้รับบาดเจ็บในช่วงที่เกิดไฟดับดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นไฟดับครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 42 ปีของนครนิวยอร์ก นับตั้งแต่เกิดเหตุไฟดับครั้งใหญ่ขึ้นเมื่อช่วงทศวรรษ 1970 และทำให้เกิดการลักขโมยและจลาจลขึ้นนครนิวยอร์กในช่วงที่เกิดไฟดับ
สำนักงานดับเพลิงนิวยอร์ก แจ้งว่า มีหม้อแปลงเกิดไฟไหม้ขึ้นที่ถนนเวสต์ 64 เมื่อช่วงก่อนเวลา 19.00 น. และส่งผลกระทบไปทั่วบริเวณ
นายจอห์น แมคเอวอย ประธานบริหารของ คอน เอดิสัน ผู้ให้บริการไฟฟ้าในแมนฮัตตัน เปิดเผยว่า ไฟฟ้าได้กลับมาใช้งานได้ตามปกติทั้งหมดก่อนช่วงเที่ยงคืน และทางการนิวยอร์กแจ้งว่า ไฟฟ้าดับครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยและธุรกิจกว่า 73,000 แห่ง แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงสาเหตุของการเกิดไฟดับครั้งนี้ โดยแมคเอวอยกล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับการใช้ไฟที่มากเกินไป
ข่าวระบุว่า หลังจากที่ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตามปกติ มีเสียงของประชาชนในแมนฮัตตัน ต่างพากันโห่ร้องด้วยความดีใจ และมีไฟสว่างขึ้นมาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศที่กลับมาทำงานได้ตามปกติ
