‘ยูเอ็น’ เผย คนตายจาก ‘เอชไอวี’ ทั่วโลก ลดลง 1 ใน 3

Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมระบุ่า ยอดผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชไอวี เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมามีจำนวน 770,000 คน ลดลงจากยอดผู้เสียชีวิตเมื่อปี 2010 คิดเป็นสัดส่วนถึง 33 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 1 ใน 3 อย่างไรก็ตามยูเอ็นเตือนว่าความพยายามในการกำจัดเอชไอวีอาจต้องชะงักลงผลจากงบประมาณที่ไม่เพียงพอ

โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติระบุว่า มีประชากรโลกราว 37.9 ล้านคนที่มีชีวิตอยู่กับเชื่อเอชไอวี ในจำนวนนี้ 23.3 ล้านคนสามารถเข้าถึงยาต้านไว้รัสได้แล้ว นับเป็นจำนวนมากเป็นสถิติ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตลดลงจากปี 2017 ที่มีมากถึง 800,000 คน ลดลงเหลือ 770,000 คนทั่วโลกในปี 2018 ขณะที่ในปี 2010 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์มากถึง 1.2 ล้านคน

อย่างไรก็ตามยังคงมีพื้นที่น่ากังวลเช่นในยุโรปตะวันออก ที่มียอดผู้เสียชีวิตจากเอดส์เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์  ขณะที่พื้นที่ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ เพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดเปรียบเทียบปีต่อปีในพื้นที่ดังกล่าวมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 29 และ 10 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

ทั้งนี้ปัจจบันยังไม่มีหนทางรักษาหรือมีวัคซีนสำหรับเชื้อเอชไอวี เชื้อซึ่งติดผู้คนไปแล้ว 80 ล้านคนและคร่าชีวิตคนไปแล้ว 35 ล้านคนนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 80 โดยยูเอ็นระบุว่ากว่าครึ่งของการติดเชื้อทั่วโลกส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้ยาเสพติด กลุ่มคนรักร่วมเพศ กลุ่มคนข้ามเพศ ผู้ค้าบริการทางเพศ และนักโทษในเรือนจำ

Advertisement

รายงานของยูเอ็นยังเตือนถึงการขาดซึ่งแรงจูงใจทางการเมืองบวกกับการขาดงบประมาณสนับสนุนที่อาจส่งผลให้พัฒนาการที่มีมาอาจตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา มีงบประมาณเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาโรคเอดส์เพียง 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังคงขาดอยู่อีกถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะถึงยอดงบประมาณโดยประมาณที่ 26,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จำเป็นต้องใช้ภายในปี 2020

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image