นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทวิภาคีกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ซึ่งเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างการเดินทางมาร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาของนายหวัง อี้ ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ก่อนที่จะแถลงข่าวร่วมกันเมื่อช่วงดึกของวันที่ 31 กรกฎาคม
นายหวัง อี้ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ไทยได้จัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ 10 ซึ่งจีนเชื่อว่าภายใต้รัชกาลใหม่ประเทศไทยจะก้าวหน้าและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ขณะที่การหารือกับนายดอนบรรยากาศเต็มไปด้วยไมตรีจิต ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าความสัมพันธ์จีน-ไทยไม่มีปัญหา มีแต่การส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือให้กว้างไกลและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
นายหวัง อี้ กล่าวว่า เป้าหมายในการพัฒนาความสัมพันธ์สองประเทศในอนาคตคือจีน-ไทยต้องสานต่อความพิเศษและความเป็นพี่น้องกัน เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกันให้มีพัฒนาการใหม่ขึ้น จีนและไทยต้องเป็นประเทศที่นำร่องในการสร้างความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือสายแถบและเส้นทางที่มีอยู่ เพื่อให้เป็นตัวอย่างกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน และทั้งสองประเทศต้องเป็นผู้บุกเบิกความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกให้ลึกซึ้งและกว้างไกลมากขึ้น ในฐานะที่ปีนี้ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน จีนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการปฎิบัติหน้าที่ของไทยอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่กำลังส่งผลกระทบกับหลายประเทศในภูมิภาครวมถึงไทยหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า มีการพูดถึงความร่วมมือต่างๆ หลากหลายที่มี โดยเฉพาะความเชื่อมโยงจีน-ไทย-อาเซียน ซึ่งแม่น้ำโขงก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง เราได้คุยกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่จีนได้ช่วยหาทางบรรเทาปัญหาที่มีการพูดถึงกันมากเกี่ยวกับการระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขง ซึ่งที่สุดแล้วก็ไม่เกิดขึ้น ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนที่อยู่ตามลำน้ำโขง
นายดอนกล่าวว่า เรื่องการบริหารจัดการลำน้ำโขงเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้มีการลงรายละเอียดเพราะจะมีการหารือกันในโอกาสต่อไปเกี่ยวกับรายละเอียดของการบริหารจัดการน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำในแม่น้ำโขงเช่นเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงจะต้องคุยกับจีน เพื่อไม่ให้เกิดความขาดแคลนและเดือดร้อน แต่ให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายในลักษณะที่ยั่งยืน
ด้านนายหวัง อี้ กล่าวว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาที่นี้มีการพูดคุยเรื่องนี้มาโดยตลอดเพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและเห็นว่าทุกฝ่ายจะต้องมีความร่วมมือและพูดคุยกัน ขณะนี้แม่น้ำหลานชางเจียง ซึ่งเป็นต้นทางของแม่น้ำโขงในจีนเกิดภัยแล้ง แต่ทางจีนได้ทราบถึงความยากลำบากของฝ่ายไทยที่เกิดภัยแล้งและมีการขาดแคลนน้ำ ทำให้จีนตัดสินใจปล่อยน้ำให้ไหลออกมามากขึ้น แม้จีนจะเสียผลประโยชน์บ้าง แต่เราก็พยายามที่จะช่วยเหลือฝ่ายไทย
นายหวัง อี้ กล่าวว่า ในช่วงหลายวันมานี้น้ำที่ปล่อยออกมาจากจีนมีมากกว่าปริมาณน้ำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในไทยอย่างมีประสิทธิภาพ จีนกับไทยถือเป็นพี่น้องกันความยากลำบากของไทยก็ถือเป็นความยากลำบากของจีน เช่นเดียวกับที่ความยากลำบากของจีนก็เป็นความยากลำบากของไทย หวังว่าไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นทั้งสองฝ่ายจะใช้ความพยายามร่วมกันที่จะแก้ไขปัญหา และต่อจากนี้เราจะมีการส่งเสริมความร่วมมือในการบริหารน้ำไม่ว่าจะเป็นต้นน้ำหรือปลายน้ำ เพื่อที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
