ด่วน! ฮ่องกง ยกเลิกเที่ยวบินขาออกทั้งหมด หลังผู้ประท้วงขวางผู้โดยสารขาออก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การท่าอากาศยานฮ่องกง ประกาศปิดรับเช็คอินทั้งหมดแล้วในช่วงเย็น วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงเข้าไปรวมตัวประท้วงในตัวอาคารผู้โดยสารขาออกเป็นวันที่ 2 โดยรวมตัวกันปิดกั้นไม่ให้ผู้โดยสารขาออกสามารถเข้าไปยังเกตสำหรับผู้โดยสารขาออกได้ อย่างไรก็ตามรายงานข่าวระบุว่ายังคงมีบางเที่ยวบินที่สามารถร่อนลงจอด และบินออกจากสนามบินฮ่องกงได้สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของวัน
แถลงการณ์ของการท่าอากาศยานฮ่องกงระบุว่า “การให้บริการที่อาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติฮ่องกงถูกขัดขวางอย่างรุนแรง ผลจากการชุมนุม” นอกจากนี้ยังระบุว่า บริการเช็คอินสำหรับเที่ยวบินขาออกทั้งหมดถูกยกเลิกตั้งแต่เลา 16.30น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่ยังมีเที่ยวบินที่บินเข้ามาได้อยู่ โดยทางสายการบินจะเป็นผู้จัดการให้บริการสำหรับผู้โดยสารที่ไม่สามารถผ่านขั้นตอนการเดินทางออกจากฮ่องกงได้ นอกจากนี้ยังประกาศให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังสนามบินด้วย
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ล่าสุดของการท่าอากาศยานฮ่องกง ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินขาออกทั้งหมด แต่ยังไม่ชัดเจนว่า ยังมีเที่ยวบินที่สามารถบินเข้ามายังสนามบินได้หรือไม่ พร้อมมีคำแนะนำให้ผู้โดยสารออกจากอาคารผู้โดยสารให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทั้งนี้การประกาศปิดรับเช็คอินทั้งหมดมีขึ้นหลังจากสนามบินฮ่องกง ค่อยๆเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากมีการปิดรับเช็คอินไปเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม โดยในช่วงคืนที่ผ่านมามีผู้ประท้วงปักหลักอยู่ที่สนามบินเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนเดินทางมารวมตัวประท้วงกันอีกครั้ง และรวมตัวกันนั่งขัดขวางทางออกไปยังเกตของผู้โดยสารดังกล่าว
การชุมนุมประท้วงและการขัดขวางผู้โดยสารดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แถลงข่าวในช่วงเช้าของวันเดียวกันระบุว่า ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงหรือการยอมให้เกิดความรุนแรงขึ้นนั้นจะเป็นการผลักฮ่องกงไปสู่เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับได้ พร้อมทั้งระบุว่าสถานการณ์ในฮ่องกงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทำให้ตนกังวลว่าจะเป็นการเดินทางมาถึงสถานการณ์อันตรายแล้ว
ทั้งนี้ ยุทธวิธีล่าสุดของกลุ่มผู้ประท้วงในการขัดขวางการดำเนินการของสนามบินมีขึ้นหลังข่าวผู้ประท้วงหญิงรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บการการเข้าควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนต้องสูญเสียตาไปหนึ่งข้าง ในการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่การประท้วงดังกล่าวที่กินเวลายาวนานกว่า 2 เดือนเริ่มต้นขึ้นจากการประท้วงต่อต้านกฎหายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ลุกลามกลายเป็นการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประชาธิปไตยเรียกร้องให้นางหล่ำ ลาออกจากตำแหน่ง และเรียกร้องให้มีการสืบสวนการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
