ฮ่องกงเตรียมรับมือกับการประท้วงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แม้ว่าทางการจีนจะเตือนว่าอาจใช้อำนาจในการปราบปรามการประท้วงก็ตาม
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา กองกำลังตำรวจประชาชนติดอาวุธ(พีเอพี)ของจีนหลายพันนายได้ทำการฝึกซ้อมที่สนามกีฬาในเมืองเซินเจิ้นของจีนที่อยู่ติดกับชายแดนฮ่องกง ซึ่งถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณของทางการจีนว่าพร้อมจะเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในฮ่องกงยังคงไม่ยุติ
เอกอัครราชทูตจีนประจำอังกฤษออกมาเตือนว่า ทางการจีนอาจใช้อำนาจในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงหากสถานการณ์เลวร้ายลงกว่านี้ พร้อมกับย้ำข้อหาที่มีต่อผู้ประท้วงบางคนว่าได้กระทำการที่เป็นสัญญาณของการก่อการร้าย และว่ารัฐบาลกลางของจีนจะไม่ยินยอมให้ผู้ใช้ความรุนแรงไม่กี่คนฉุดรั้งฮ่องกงให้ตกลงไปในหุบเหวลึกที่อันตรายและเลวร้ายอย่างแน่นอน
สอดรับกับหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทม์ส หนังสือพิมพ์กระแสหลักของทางการจีนที่เตือนว่า การใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงเป็นหนึ่งในทางเลือกของจีน พร้อมกับกล่าวโจมตีการเข้ามาแทรกแซงกิจการในฮ่องกงของสหรัฐ
“หากฮ่องกงไม่สามารถที่จะฟื้นฟูการบังคับใช้กฎหมายได้ด้วยตนเองและการประท้วงเข้มข้นขึ้น ก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รัฐบาลกลางจะต้องเข้าไปดำเนินการโดยตรงภายใต้หลักกฏหมายพื้นฐาน การส่งกำลังพีเอพีเข้าไปคือสัญญาณการเตือนที่ชัดเจน”โกลบอล ไทม์ส ระบุ และว่า อย่างไรก็ดีสถานการณ์ในฮ่องกงจะไม่ซ้ำรอยกับเหตุการณ์ทางการเมืองในวันที่ 4 มิถุนายน 1989 ซึ่งหมายถึงเหตุประท้วงที่จตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อ 30 ปีก่อน
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า เขาไม่ต้องการเห็นการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ประท้วงในฮ่องกง แต่ต้องการเห็นจีนแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยเมตตาธรรม
“หากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะนั่งลงพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มผู้ประท้วง ผมเชื่อว่าเขาจะแก้ไขปัญหานี้ได้ภายใน 15 นาที ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำ แต่มันก็ไม่ใช่ความคิดที่แย่”ทรัมป์กล่าว และว่า เขามีกำหนดที่จะหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีจีนในเร็วๆ นี้ด้วย
แม้ทางการจีนจะส่งสัญญาณว่าพร้อมส่งกำลังเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในฮ่องกง แต่กลุ่มแนวหน้าสิทธิมนุษยชนพลเรือน ซึ่งเป็นผู้จัดการประท้วงในฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายน ยังคงประกาศเดินหน้าจัดการประท้วงอีกครั้งในวันที่ 18 สิงหาคมนี้
