ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น ขณะที่ตลาดคาดสงครามการค้าจะลดระดับลง

REUTERS/Vasily Fedosenko/File Photo

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดขยับขึ้นในวันอังคาร (20 ส.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ในทางบวกที่ว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐจะลดระดับลง และการคาดการณ์ที่ว่า ประเทศสำคัญจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสกัดกั้นการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันเพิ่งร่วงลงในช่วงเช้า โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมันในอนาคต

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนก.ย.ปรับขึ้น 13 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 56.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.5% สู่ 60.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดี หลังจากตลาดปิดทำการในวันอังคาร ราคาน้ำมันดิบสหรัฐได้ร่วงลง โดยได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวว่า เขายังไม่พร้อมจะทำข้อตกลงการค้ากับจีน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุในเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐจะขยายเวลาผ่อนผันเพื่ออนุญาตให้บริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยีส์ของจีนสามารถซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐได้ต่อไปเป็นเวลา 90 วัน โดยสิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐได้ลดระดับลงเล็กน้อย

ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมัน ทั้งนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในตลาดโลกในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยคาดว่าอุปสงค์อาจเพิ่มขึ้นเพียง 1.10 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2019 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนราว 40,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกยังคาดการณ์ว่า อาจจะเกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดเล็กน้อยในปี 2020

Advertisement

หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันอังคาร การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน ได้เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ส.ค. โดยระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลง 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ 439.8 ล้านบาร์เรล ส่วนโพลล์รอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐอาจลดลง 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image