โรฮีนจาเบี้ยวส่งกลับเมียนมา ย้ำขอความปลอดภัย-สิทธิพลเมือง

กระบวนการส่งกลับชาวโรฮีนจาไปยังเมียนมาล้มเหลวอีกครั้ง เมื่อโรฮีนจาหลายพันคนที่ถูกระบุว่าจะเป็นกลุ่มแรกที่สมัครใจเดินทางกลับเมียนมาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ไม่มาปรากฏตัวแม้แต่คนเดียว พร้อมกับเรียกร้องว่าพวกเขาต้องได้รับการรับประกันความปลอดภัยรวมถึงได้สิทธิในการเป็นพลเมืองเมียนมาเสียก่อน

นายอับดุล คาลัม ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีชาวโรฮีนจา แม้แต่คนเดียวที่ต้องการจะเดินทางกลับไปยังเมียนมาหากข้อเรียกร้องของพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนอง

ก่อนหน้านี้รัฐบาลเมียนมาประกาศว่าผู้อพยพชาวโรฮีนจามากกว่า 3,000 คนจากมากกว่า 1,000 ครอบครัว พร้อมสำหรับกระบวนการส่งกลับแล้ว โดยปฏิบัติการส่งกลับจะเริ่มขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคม แต่ปฏิบัติการดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ขณะที่นายคาลัมกล่าวว่า ไม่มีชาวโรฮีนจาแม้แต่ตนเดียวจาก 295 ครอบครัว ที่ผ่านการสัมภาษณ์จากรัฐบาลบังกลาเทศและหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ที่เคยตกลงว่าจะเดินทางกลับเมียนมา เดินทางกลับไปในวันที่ 22 สิงหาคม

Advertisement

นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศระบุว่า รัฐบาลบังกลาเทศจะไม่บังคับผู้ลี้ภัยให้เดินทางกลับ และกระบวนการส่งกลับจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ลี้ภัยต้องการที่จะเดินทางกลับเท่านั้น

ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์)ออกแถลงการณ์ระบุว่า ชาวโรฮีนจาที่ยูเอ็นเอชซีอาร์สัมภาษณ์ต้องการเดินทางกลับไปเมียนมาเมื่อเงื่อนไขของพวกเขาได้รับการตอบสนองเท่านั้น อาทิ การได้รับสิทธิในฐานะพลเมือง มีเสรีภาพในการเคลื่อนย้าย รวมถึงการรับรองความปลอดภัยโดยรัฐบาลเมียนมา

ยูเอ็นเอชซีอาร์ชี้ด้วยว่า ยูเอ็นเอชซีอาร์จำเป็นที่จะต้องได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่บ้านเกิดของผู้ลี้ภัยเหล่านี้ เนื่องจากสิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือการสร้างความเชื่อมั่น ดังนั้นจึงต้องมีการเปิดช่องทางให้ยูเอ็นสามารถเข้าไปถึงบ้านเกิดของผู้ลี้ภัยรวมถึงพื้นที่ต่างๆ ที่จำเป็นของคนกลุ่มนี้ในการที่พวกเขาจะเดินทางกลับไปยังรัฐยะไข่

Advertisement

ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาจำนวนมากยังเรียกร้องว่า พวกเขาต้องการเดินทางกลับเมียนมาภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงจากยูเอ็น ไม่ใช่ภายใต้การดำเนินการของรัฐบาลเมียนมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image