| ที่มา | นสพ.มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | มนต์ทิพย์ ธานะสุข [email protected] |
| เผยแพร่ |
บรรยากาศการลงทุนในจีนตอนนี้ดูท่าจะไม่ค่อยน่าพิสมัยสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ วัดได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของภาคเอกชนยุโรปและการสะท้อนข้อห่วงกังวลของ แจ๊ก ลูว์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐอเมริกา ระหว่างร่วมประชุมกับเหล่าซีอีโอ นอกรอบการเจรจาทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันก่อน
โดยผลสำรวจความคิดเห็นภาคเอกชนยุโรปที่จัดทำโดยหอการค้ายุโรปในประเทศจีนพบว่า นักลงทุนยุโรปส่วนใหญ่มองบรรยากาศการลงทุนในตลาดจีนแง่ลบสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ อันมี 2 ตัวแปรใหญ่ที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น คือ การชะลอความร้อนแรงลงของเศรษฐกิจจีน และบรรยากาศการทำธุรกิจในจีนไม่เป็นมิตรกับนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
บริษัทยุโรปร้อยละ 56 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อปีก่อนถึง 5 จุด บอกว่าการทำธุรกิจในจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีความยากมากขึ้น ขณะที่เกือบ 1 ใน 3 ที่นับเป็นอัตราสูงสุดเท่าที่เคยมีการทำสำรวจมา บอกว่าการสร้างผลกำไรจากการลงทุนในตลาดจีนเป็นไปอย่างเชื่องช้า
เมื่อมองทิศทางถึงวันข้างหน้า บริษัทยุโรปที่ร่วมในการทำสำรวจครั้งนี้กว่าร้อยละ 40 บอกว่าอาจจะมีการลดต้นทุนการลงทุนในตลาดจีนลงผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การลอยแพพนักงาน ขณะที่ร้อยละ 11 บอกไปไกลถึงแผนการที่จะโยกการลงทุนไปยังตลาดอื่นแทน
อย่างที่บอก 2 ปัจจัยใหญ่ที่มีผลต่อความรู้สึกของนักลงทุนยุโรปคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ในปีที่แล้วเติบโตลดลงอยู่ที่ร้อยละ 6.9 นับเป็นอัตราเติบโตอ่อนแอที่สุดในรอบ 25 ปีของจีน และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในจีนได้สร้างบรรยากาศที่ไม่เป็นมิตรต่อการลงทุนและส่งผลกระทบมากเป็นพิเศษต่อนักลงทุนยุโรป เช่น การที่ทางการจีนรับปากว่าจะลดอุปสรรคทางการลงทุนต่างๆ ที่มีอยู่ แต่ตรงกันข้ามในความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น โดยนักลงทุนยุโรปเกือบร้อยละ 60 ชี้ว่าทางการจีนคุมเข้มการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากยิ่งขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ นั่นทำให้กระทบต่อการทำธุรกิจของพวกเขาอย่างร้ายแรง เพราะทำให้การเข้าถึงข้อมูลในการทำธุรกิจเป็นไปได้ยาก ขณะที่ร้อยละ 40 ชี้ว่าข้อกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงที่จีนออกมาใหม่ ยังทำให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังถูกเลือกปฏิบัติ เช่น กฎหมายใหม่เกี่ยวกับองค์กรไม่แสวงผลกำไรต่างชาติ (เอ็นจีโอ) ที่จะมีผลบังคับใช้ปีหน้า ที่จะเป็นตัวตีกรอบการทำงานขององค์การต่างชาติ ซึ่งรวมถึงหอการค้ายุโรปเองด้วย
ด้าน แจ๊ก ลูว์ สะท้อนข้อกังขาของภาคเอกชนอเมริกันที่พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้รับการต้อนรับในตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น โดยให้เหตุผลทำนองเดียวกับภาคเอกชนยุโรปนั่นคือเรื่องของบรรยากาศการลงทุนและอุปสรรคของข้อกฎหมายที่จำกัดขีดความสามารถของพวกเขา
ก็เป็นหน้าที่ของจีนที่จะเอาข้อสะท้อนความห่วงกังวลไปขบคิดและแก้ไขปรับปรุงหรือไม่ ถ้ายังหวังจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศเพื่อช่วยกระตุ้นฟันเฟืองการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตนเองได้อีกทาง
