ซันเดย์ เอ็กซ์เพรส , เดอะ การ์เดียน และสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 กันยายนนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยไว้ในข้อเขียนในหนังสือพิมพ์ เดลี เอ็กซ์เพรสในอังกฤษระบุว่า จะไม่ยินยอมดำเนินการตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากการลงมติของสภาสามัญ ซึ่งกำหนดจะประกาศใช้เป็นกฎหมายในวันที่ 9 กันยายน หลังผ่านความเห็นชอบของสภาขุนนางหรือสภาสูงของอังกฤษ โดยยืนยันว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มส.ส.ที่นำโดยนาย เจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงานพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีทำจดหมายขอเลื่อนกำหนดเส้นตายของการทำเบร็กซิท หรือการลาออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จากวันที่ 31 ตุลาคมนี้ไปเป็นวันที่ 31 มกราคม 2563 ในเวลาเดียวกันก็ประกาศจะสกัดไม่ให้มีการเลือกตั้งขึ้นก่อนหน้าที่อียูจะให้ความเห็นชอบในการเลื่อนเส้นตายดังกล่าว เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีเหตุผล ทำลายความพยายามในการเจรจาของรัฐบาล และทำให้เบร็กซิทต้องชะลอช้าออกไปอีก ดังนั้น ตนเองพร้อมจะดำเนินการไปตามจุดยืนของตน
ทั้งนี้แหล่งข่าวเปิดเผยกับสื่ออังกฤษรายนี้ว่า หากนายคอร์บินยังคงอาศัยเสียงข้างมาก สกัดไม่ให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ตามข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน รัฐบาลอังกฤษก็เคลื่อนไหวตอบโต้ด้วยการไม่แต่งตั้งคณะกรรมาธิการที่เป็นตัวแทนของอังกฤษไปประจำ คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป พร้อมกันนั้นก็ยืนยันไม่เลื่อนเส้นตาย 31 ตุลาคมนี้ออกไปอีก ซึ่งจะส่งผลให้คณะธรรมาธิการของสหภาพยุโรปไม่สามารถดำเนินการงานโดยชอบด้วยกฎหมายได้ ตามมาตรา 17 ของสนธิสัญญาสหภาพยุโรป ที่กำหนดให้คณะกรรมาธิการดำเนินงานโดยมติที่เป็นเอกฉันท์ ทั้งนี้ หากทางอียู เตรียมเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัตินี้ด้วยการแก้ไขสนธิสัญญาฯ อังกฤษก็สามารถใช้สิทธิยับยั้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อีกเช่นกัน
ทั้งนี้แผนดังกล่าวเปิดเผยออกมาในเวลาเดียวกับที่ ลอร์ด แมคโดนัลด์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานอัยการแห่งรัฐของอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน อาจต้องถึงขั้นติดคุกในฐานะดูหมิ่นศาลได้ หากยังคงยืนกรานไม่ทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังอียูเพื่อขอเลื่อนเส้นตายตามมติของสภาสามัญก่อนหน้านี้ ในขณะที่แหล่งข่าวในพรรคแรงงานระบุว่า การตัดสินใจไม่ทำตามมติดังกล่าวนอกจากจะทำให้เกิดความผิดแบบเดียวกับการหมิ่นศาลแล้วยังทำให้นายกรัฐมนตรีจอห์นสันอาจถูกสภากดดันให้พ้นจากตำแหน่งก็เป็นได้
