เผยปีนี้คลื่นความร้อนคร่าชาวฝรั่งเศสเกือบ 1,500 ราย

เอเอฟพี

เมื่อวันที่ 9 กันยายน สำนักข่าวบีบีซีรายงานถึงสถานการณ์คลื่นความร้อนในประเทศฝรั่งเศสในปีนี้ ส่งผลรุนแรงถึงขั้นมีประชากรเสียชีวิตจำนวนถึง 1,435 ราย จากการเปิดเผยของนางแอกเนส บูซอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส ที่ยังระบุว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนครึ่งหนึ่งมีอายุมากกว่า 75 ปี และอีกกว่า 10 คนเสียชีวิตขณะทำงาน

ทั้งนี้อุณหภูมิสูงสุดในประเทศฝรั่งเศสในปีนี้วัดได้ที่ 46 องศาเซลเซียสช่วงเดือนมิถุนายน และในกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศ อุณหภูมิยังพุ่งสูงทำสถิติถึง 42.6 องศาเซลเซียสในเดือนกรกฎาคม

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่า คลื่นร้อนครั้งแรกที่ถล่มฝรั่งเศสในปีนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มิถุนายนถึง 7 กรกฎารคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 567 ราย และครั้งที่ 2 เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 กรกฎาคม มีผู้เสียชีวิต 868 ราย

ทว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากปัญหาคลื่นร้อนแผ่ปกคลุมฝรั่งเศสในปีนี้ยังน้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2546 ถึง 10 เท่า ผลจากการดำเนินมาตรการป้องกันต่างๆ เช่น การประกาศเตือนภัยคลื่นร้อนจัดในหลายพื้นที่ของประเทศ หลายโรงเรียนปิดการเรียนการสอน การงดจัดกิจกรรมสาธารณะในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อลดกระทบ ขณะที่สวนสาธารณะและสระว่ายน้ำเปิดให้บริการเพื่อช่วยประชาชนคลายร้อน รวมถึงการเปิดสายโทรศัพท์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินและการสร้างห้องทำความเย็นชั่วคราวในอาคารเทศบาลในกรุงปารีส

Advertisement

นอกจากประเทศฝรั่งเศสแล้วยังมีประเทศอื่นในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างรัฐกาตาลุญญา ประเทศสเปน ที่คลื่นร้อนยังส่งผลให้เกิดปัญหาไฟป่าขึ้นหลายจุดตามมา ซึ่งบางจุดถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี นอกจากนี้อังกฤษ เบลเยียม เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ ล้วนเผชิญกับอุณหภูมิพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย แต่ยังไม่มีประเทศใดเปิดเผยข้อมูลผู้เสียชีวิตจากภาวะคลื่นร้อนในปีนี้ออกมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image