สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศมาตรการห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทุกรสชาติในรัฐนิวยอร์ก นอกเหนือจากบุหรี่ไฟฟ้าธรรมดาและรสเมนทอล หลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐพบว่าหลายกรณีของการป่วยด้วยโรคปอดร้ายแรงมีสาเหตุเกี่ยวพันกับบุหรี่ไฟฟ้า
นายคูโอโมกล่าวในการแถลงข่าวที่เขตแมนฮัตตันว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายและเป็นสิ่งที่ตนห่วงกังวลว่าบุหรี่ไฟฟ้ารสชาติผลไม้และรสลูกอมที่มีสารนิโคตินอยู่ จะทำให้กลุ่มวัยรุ่นติด และว่า “กลุ่มเสี่ยงอันตรายคือกลุ่มวัยรุ่นเพราะเป้าหมายที่เห็นได้ชัดของกลุ่มการค้าคือกลุ่มวัยรุ่น”
ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวอีกว่า นายโฮเวิร์ด ซัคเกอร์ คณะกรรมาธิการสาธารณสุขของรัฐนิวยอร์กจะประกาศคำสั่งห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทุกรสชาตินี้ในระหว่างการประชุมฉุกเฉินกับสภาสาธารณสุขและการวางแผนสุขภาพภายในสัปดาห์นี้
การประกาศมาตรการนี้มีขึ้นหลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐพบว่าประชาชนเกือบ 400 คนทั่วประเทศป่วยเป็นโรคปอดและเสียชีวิตแล้ว 6 ราย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ขณะที่ทีมสอบสวนกำลังพยายามค้นหาทำความเข้าใจว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของการป่วยด้วยโรคปอดรุนแรงดังกล่าว ขณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังตักเตือนให้หลีกเลี่ยงการสูดดมวิตามินอี อะซิเตทซึ่งเป็นสารที่มีผสมอยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าบางชนิดด้วย
นอกจากนี้มาตรการห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว รัฐนิวยอร์กยังปรับเกณฑ์อายุห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ปรับเพิ่มเป็น 21 ปี โดยจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
มาตรการข้างต้นจะส่งผลให้รัฐนิวยอร์กจะเป็นรัฐที่ 2 ในสหรัฐอเมริกาที่จะห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ นอกเหนือจากรัฐมิชิแกนที่บังคับใช้มาตรการเดียวกันมาแล้วเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะที่เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมารัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศแผนที่จะกำจัดบุหรี่ไฟฟ้าทุกรสชาติออกจากชั้นวางแผงในร้านค้าเช่นกัน
