สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขอินเดียมีคำสั่งเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ห้ามการผลิต, นำเข้า, จำหน่ายจ่ายแจกและโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องหรือ อิเล็กทรอนิกส์ ซิกาแร็ตส์ โดยมีระวางโทษสูงสุดสำหรับผู้ฝ่าฝืนครั้งแรกสูงสุดได้ถึง 1 ปี และ ปรับอีก 100,000 รูปี หรือราว 43,000 บาท แต่ระวางโทษสำหรับการกระทำความผิดซ้ำจะเพิ่มเป็น ไม่เกิน 3 ปี และปรับเป็นเงิน 500,000 รูปี แต่กฎหมายดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อสูบ นายวิกาศ ศีล เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้สูบจะไม่มีรีฟิลเพิ่มสำหรับการสูบทำให้จำเป็นต้องยุติไปในที่สุด
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นพร้อมคำเตือนที่ย้ำว่าผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้มีคุณลักษณะหลายอย่างและมีรสชาติให้เลือกหลากหลายที่ทำให้เกิดการติดและระบาดได้โดยเฉพาะในหมู่เด็กและเยาวชน ไม่เฉพาะแต่ในอินเดียยังเกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ จนทำให้เกิดการตรวจสอบกันเข้มข้นมากขึ้นในเวลานี้ นอกเหนือจากในสหรัฐอเมริกา ที่พบว่ามีผู้เสียชีวิตซึ่งเชื่อมโยงกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว 6 รายจนมีคำสั่งห้ามจำหน่ายสารระเหยแต่งกลิ่นทุกกลิ่น รวมถึงมีแผนห้ามวางจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเปิดเผยแล้ว นอกเหนือจากที่เพิ่งมีการพบผู้ป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้ารายแรกแล้วเมื่อวันที่ 18 กันยายนเช่นเดียวกัน
คำสั่งห้ามของทางการอินเดียในครั้งนี้ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่อย่าง จูลล์ และ ฟิลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล (พีเอ็มไอ) ซึ่งเตรียมเปิดตัว บุหรี่ไฟฟ้าจูลล์ และบุหรี่ไฟฟ้าแบบฮีทน็อทเบิร์นของพีเอ็มไอในอินเดียในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ตลาดอี-ซิกาเเร็ตส์ของอินเดียมีมูลค่า 57 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาและมีการประเมินกันว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 60 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ในขณะที่มูลค่าตลาดรวมทั่วโลกเท่ากับ 713,000 ล้านดอลลาร์
