ตลาดน้ำมันนิวยอร์ก ราคาน้ำมันดิบสหรัฐทรงตัว เบรนท์พุ่งขึ้น 1.3%

REUTERS/Jean-Paul Pelissier

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 20 กันยายน ระบุว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี แต่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นกว่า 1% โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่ว่า อาจจะเกิดภาวะขาดแคลนอุปทานน้ำมันเป็นเวลานานเกินคาด หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันซาอุดีอาระเบียในวันเสาร์ที่ผ่านมา และความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือน ต.ค.ขยับขึ้น 2 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 58.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.3% สู่ 64.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

การโจมตีโรงงานน้ำมันในวันเสาร์ที่ผ่านมาส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียลดลงราว 50% และความข้ดแย้งก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่สหรัฐและซาอุดิอาระเบียระบุว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง โดยซาอุดิอาระเบียระบุว่า เหตุโจมตีในครั้งนี้ “ได้รับการสนับสนุนอย่างไม่ต้องสงสัย” จากอิหร่าน ทางด้านสหรัฐระบุว่า สหรัฐกำลังสร้างแนวร่วมเพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามจากอิหร่าน นอกจากนี้ กองทัพสหรัฐก็กำลังปรึกษาหารือกับซาอุดีอาระเบียเรื่องวิธีการลดภัยคุกคามจากทางทิศเหนือ ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่ามาจากอิหร่านเช่นกัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวว่า มีทางเลือกหลายทางที่ไม่ใช่การทำสงคราม และเขาได้สั่งให้กระทรวงการคลังสหรัฐ “เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลอิหร่านขึ้นเป็นอย่างมาก” ทางด้านอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า อิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตี และอิหร่านเตือน ปธน.ทรัมป์ว่าอย่าลากอิหร่านเข้าสู่การทำสงคราม

Advertisement

ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการที่เทรดเดอร์เข้าซื้อชดเชยการทำชอร์ตเซล หลังจากราคาน้ำมันแกว่งตัวผันผวนในสัปดาห์นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image