สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกประกาศขับชาวคิวบา 2 คน ออกนอกสหรัฐอเมริกา โดยนางมอร์แกน ออร์ตากุส โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแจ้งว่า ชาวคิวบาทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะทำงานถาวรของคิวบาในสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พยายามที่จะกระทำการจูงใจอันเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดและชื่อของชาวคิวบาทั้งสอง ระบุเพียงว่า ทั้งสองจะถูกจำกัดการเดินทางเฉพาะหน้าที่ที่เหลือที่จะต้องเดินทางไปยังแมนฮัตตันเท่านั้น
ด้านนายบรูโน โรดริเกซ รัฐมนตรีต่างประเทศคิวบา ได้ออกมาประณามอย่างรุนแรงการกระทำดังกล่าวของสหรัฐ และว่าเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรมและอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
รายงานระบุว่า การขับไล่ดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วันก่อนหน้าที่บรรดาผู้นำโลกจะเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่นครนิวยอร์ก
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ สหรัฐอเมริกาถูกกำหนดให้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่การทูตต่างชาติเข้าร่วมการประชุมที่สหประชาชาติ แต่รัฐบาลวอชิงตันสามารถปฏิเสธวีซ่าด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง ก่อการร้ายและนโยบายต่างประเทศได้
ข่าวระบุว่า ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา สหรัฐและคิวบา ซึ่งเป็นศัตรูกันตั้งแต่สมัยสงครามเย็น ต่างขับไล่ทูตของกันและกันออกนอกประเทศตลอด โดยเมื่อเดือนกันยายน 2017 รัฐบาลของทรัมป์ได้ไล่เจ้าหน้าที่ทูตคิวบา 15 คน ออกนอกประเทศ หลังจากมีเจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐในกรุงฮาวานา ของคิวบา ล้มป่วยลงด้วยโรคประหลาด และรัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าเป็นฝีมือของทางการคิวบา