สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาประกาศจะส่งกำลังทหารเข้าไปประจำการณ์ในอ่าวเปอร์เซีย หลังจากแหล่งผลิตน้ำมัน 2 แห่งของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นในทันที โดยสหรัฐเชื่อว่าเหตุโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของอิหร่าน แม้ว่ากลุ่มกบฎฮูธีในประเทศเยเมนจะออกมากล่าวอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มตนเองก็ตาม
โดยนายมาร์ค เอสเพอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐประกาศว่า ประธานาธิบดีสหรัฐได้อนุมัติการส่งกำลังทหารเข้าไปประจำการณ์ในอ่าวเปอร์เซียแล้วตามคำร้องขอของซาอุฯและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นกำลังพลพอสมควร แต่ไม่ใช่หลักหลายพันนาย ที่จะทำหน้าที่ป้องกันตามธรรมชาติและมุ่งเน้นภารกิจป้องกันการทางอากาศและขีปนาวุธ
การประกาศส่งกำลังทหารเข้าไปช่วยสนับสนุนซาอุฯดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ ที่บังคับใช้กับธนาคารกลางอิหร่าน โดยชี้ว่าเป็นมาตรการคว่ำบาตรรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยดำเนินมากับประเทศอื่น แต่ทรัมป์ยืนยันว่าเขายังไม่มีแผนที่จะลงมือโจมตีทางทหารแต่อย่างใด
