น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางมาเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ(ยูเอ็นจีเอ) สมัยที่ 74 ได้หารือทวิภาคีกับนางเยคาเทรีนา ซาคารีเยวา รองนายกรัฐมนตรีด้านการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและรัฐมนตรีต่างประเทศบัลแกเรีย และนางราโมนา นิโคล มาเนสซู รัฐมนตรีต่างประเทศโรมาเนีย เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ตามเวลาในสหรัฐว่า การประชุมยูเอ็นจีเอจะเป็นโอกาสที่ให้ประเทศต่างๆ จะได้มีการพบปะหารือกับประเทศที่อาจจะอยู่ห่างไกลหรือไม่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากนัก เพื่อติดตามและสานต่อประเด็นที่มีความสนใจร่วมกัน เนื่องจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีการพบกับรัฐมนตรีสหภาพยุโรปหลายประเทศที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป(อียู)
น.ส.บุษฎีกล่าวว่า ในการพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศบัลแกเรียมีการพูดคุยเกี่ยวกับการเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ในทุกมิติ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นว่ามีหลายประเด็นที่สามารถจะส่งเสริมการติดต่อระหว่างกันได้มากขึ้น รวมทั้งพิจารณาว่าจะเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันได้อย่างไร
ขณะที่การหารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศโรมาเนีย น.ส.บุษฎีระบุว่า ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับช่องทางในการเพิ่มพูนมูลค่าการค้าระหว่างกันว่าจะดำเนินการได้อย่างไร หลังจากที่ปี 2561 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ที่ 202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไทยได้ดุลการค้า 72.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ 8 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 21.09% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีช่องทางที่สามารถเพิ่มพูนมูลค่าการค้าระหว่างกันได้มากขึ้น
น.ส.บุษฎีกล่าวอีกว่า เนื่องจากบัลแกเรียและโรมาเนียเป็นสมาชิกอียู จึงได้มีการพูดคุยถึงบทบาทของไทยในฐานะประธานอาเซียนว่าเราเน้นส่งเสริมความร่วมมือในมิติใด ซึ่งทั้งสองประเทศให้ความสนใจกับประเทศไทยและอาเซียน โดยไทยแจ้งว่าเราจะเป็นเจ้าภาพจัดการเสวนาของการประชุมเอเชีย-ยุโรป(อาเซม)ว่าด้วยการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ด้านความเชื่อมโยงดิจิตอลอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งสองประเทศมีศักยภาพในการส่งผู้เชี่ยวชาญมาเข้าร่วมการสัมมนาดังกล่าว และยังถือเป็นการต่อยอดการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของไทยอีกด้วย
