รายงานการชี้มูลความผิดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 26 กันยายนระบุว่า ทรัมป์ไม่เพียงแต่ใช้อำนาจในตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อพยายามจูงใจให้ยูเครนเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2020 เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง แต่ทำเนียบขาวยังพยายามพยายามที่จะปกปิดหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวด้วย
รายงานชิ้นนี้ถูกเผยแพร่โดยคณะกรรมาธิการของรัฐสภาซึ่งเป็นของพรรคเดโมแครตระบุว่า เจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวได้เข้ามาแทรกแซงเพื่อให้มีการเปลี่ยนการบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดียูเครน จากระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งปกติแล้วสามารถเก็บไว้ได้ไปอยู่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่แยกขึ้นใหม่ ซึ่งปกติแล้วจะใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่มีชั้นความลับและมีความละเอียดอ่อน
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งถึงกับระบุว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ เนื่องจากโทรศัพท์สายนั้นไม่ได้มีข้อมูลใดๆ ที่ถือว่ามีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในมุมมองด้านความมั่นคงของชาติ
ทั้งนี้ผู้ที่ให้เบาะแสเรื่องดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ(ซีไอเอ )ซึ่งถูกสั่งให้ไปทำงานที่ทำเนียบขาว สอดคล้องกับรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส
และรอยเตอร์ที่มีการเผยแพร่ออกมาว่าแหล่งข่าวคือเจ้าหน้าที่ซีไอเอ
