“อาเจะห์” งัดโทษ เฆี่ยนประจาน 100 ครั้ง พรานล่าสัตว์ป่า

แฟ้มภาพเอเอฟพี

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จังหวัดอาเจะห์ ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวในประเทศอินโดนีเซียที่บังคับใช้กฎหมายศาสนาของศาสนาอิสลาม (ชะรีอะฮ์) เตรียมดันบทลงโทษใหม่ในจัดการกับนายพรานที่คุกคามล่าสัตว์ป่า เช่น ลิงอุรังอุตัง และ เสือ ด้วยการกำหนดบทลงโทษสูงสุดคือการเฆี่ยนประจาน 100 ครั้ง นอกเหนือจากโทษจำคุกที่จะได้รับตามกฎหมายของประเทศที่บังคับใช้อยู่แล้ว โดยบทลงโทษใหม่นี้ได้มีการรับรองเห็นชอบไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า

ที่ผ่านมาการเฆี่ยนตีประจานในจังหวัดอาเจะห์ มักจะบังคับใช้กับการก่ออาชญากรรมที่เป็นความผิดทางศีลธรรมตามกฎหมายศาสนาของศาสนาอิสลาม เช่น การเล่นพนัน ดื่มสุรา การมีพฤติกรรมรักร่วมเพศหรือมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่จะมีการลงโทษด้วยการเฆี่ยนประจานต่อผู้ใดก็ตามที่ทำให้สัตว์ป่าตกอยู่ในอันตรายหรือแสวงหาประโยชน์จากสัตว์ป่าในจังหวัดอาเจะห์ นอกจากนี้ในบทบัญญัติใหม่ยังกำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐผู้ดูแลคุ้มครองสัตว์ป่า อาจได้รับโทษเฆี่ยนตีสูงสุดถึง 60 ครั้งด้วย หากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าวละเลยหรือเพิกเฉยต่อการปฏิบัติหน้าที่

นูร์ซาห์รี สมาชิกสภานิติบัญญัติจังหวัดอาเจะห์ กล่าวว่า บทลงโทษรุนแรงใหม่นี้เป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงความพยายามในการปราบปรามการล่าสัตว์หรือการคุกคามอื่นๆที่มีต่อสัตว์ป่าในพื้นที่ ซึ่งรวมนกหลายชนิดที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าบนเกาะสุมาตรา

ขณะที่บรรดานักเคลื่อนไหวต่างประณามการเฆี่ยนประจานว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย และประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียเองยังออกมาเรียกร้องให้ยุติบทลงโทษดังกล่าว ทว่ามาตรการนี้กลับได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากชาวจังหวัดอาเจะห์ที่มากถึง 98 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในจังหวัดนี้ที่มี 5 ล้านคนเป็นชาวมุสลิม ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของอินโดนีเซีย ประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image