ม็อบฮ่องกงคลั่งทำลายข้าวของ หลังถูกห้ามใส่หน้ากาก 5ต.ค.รถไฟใต้ดินทั้งระบบปิดทำการ

AFP

คำสั่งห้ามผู้ประท้วงในฮ่องกงสวมหน้ากากเพื่ออำพรางใบหน้าส่งผลให้ผู้ชุมนุมออกมารวมตัวกันก่อเหตุรุนแรงตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 4 ตุลาคม โดยมีการจุดไฟเผาและทำลายสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง รวมทั้งทำลายข้าวของและร้านค้า ทำให้ระบบรถไฟของฮ่องกงทั้งหมดประกาศปิดให้บริการในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับช็อปปิ้งมอล และธนาคารจำนวนมากที่ประกาศปิดบริการในวันนี้เช่นกัน

ความรุนแรงครั้งล่าสุดปะทุขึ้นหลังทางการฮ่องกงประกาศห้ามผู้ชุมนุมสวมหน้ากากเข้าร่วมการชุมนุม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมซึ่งยืดเยื้อยาวนานมากว่า 4 เดือน แต่ยิ่งทำให้ผู้ประท้วงออกมาชุมนุมกันมากขึ้น และใช้ความรุนแรงในการทำลายข้าวของ

รายงานข่าวระบุว่า ผู้ประท้วงได้ทำลายสถานีรถไฟหลายแห่ง และยังจุดไฟตามท้องถนน รวมถึงทำลายกระจกของร้านค้าและธุรกิจที่เข้าข้างจีน โดยเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นตลอดคืนวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมในหลายจุด เพื่อขับไล่ผู้ประท้วงที่ออกมาปิดกั้นท้องถนน และมีรายงานว่าเด็กชายวัย 14 ปีรายหนึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ทางการระบุว่าตำรวจได้ยิงปืนเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากถูกผู้ประท้วงล้อมรถและปาระเบิดขวดจนระเบิดใส่เท้า ทั้งยังมีรายงานว่าตำรวจอีกรายหนึ่งถูกม็อบรุมทำร้ายจนร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น และยังถูกกลุ่มผู้ประท้วงรุมทำร้ายต่อจนทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต ตำรวจรายนี้จึงตัดสินใจยิงปืนออกไปหนึ่งนัด อย่างไรก็ดีไม่ชัดเจนว่าเด็กวัย 14 ปีที่ระบุว่าถูกยิงนั้นได้รับบาดเจ็บเพราะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image