เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คณะกรรมการปราบปรามการทุจริต(เอซีซี)ของมาเลเซีย สั่งโทษปรับเงิน บุคคล บริษัทเอกชนและพรรคการเมืองรวม 80 ราย เป็นเงินรวมกันราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับการได้รับเงินที่ได้มาจากการยักยอกเงินกองทุนความมั่งคั่งแห่งรัฐ หรือ 1เอ็มดีบีอันอื้อฉาวของมาเลเซียไป
การกำหนดบทลงโทษนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขยายผลการสอบสวนการทุจริตยักยอกเงินกองทุน 1เอ็มดีบีอันอื้อฉาวไปเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปี 2009-2014 แล้วถูกนำไปจับจ่ายซื้อสิ่งของหรูหราฟุ่มเฟือยต่างๆตั้งแต่เรือยอร์ชไปจนถึงผลงานศิลปะ ที่นายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจากพรรคอัมโนถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญในการปล้นเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาประเทศอันอื้อฉาวแห่งนี้ไป จนนำไปสู่การพ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างหมดรูปของพรรคอัมโนพร้อมการร่วงหล่นจากอำนาจของตัวนายนาจิบเอง
ลาธีฟา โคยา ประธานเอซีซีกล่าวว่า เราหวังว่าจะสามารถนำเงินจากบุคคล บริษัทและพรรคการเมืองต่างๆรวม 80 ราย มีมูลค่ารวมกันราว 420 ล้านริงกิต(100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)กลับคืนมาได้ ซึ่งรวมถึงจากนายนาซีร์ ราซัก น้องชายของนายนาจิบที่เคยเป็นประธานของไอซีเอ็มบี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของมาลเซียด้วย เนื่องจากบุคคล บริษัทและพรรคการเมืองเหล่านี้ได้รับเงินที่ถูกยักยอกไปจากกองทุน1เอ็มดีบีผ่านบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับนายนาจิบ ทั้งนี้ผู้ได้รับโทษปรับมีเวลา 2 สัปดาห์ในการจ่ายเงินค่าปรับดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีต่อไป
