เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายซัลวาดอร์ ปาเนโล โฆษกของประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ถูกชาวฟิลิปปินส์วิพากษ์วิจารณ์หนักเกี่ยวกับความห่วงวิตกของประชาชนที่มีต่อปัญหาการจราจรขนส่งในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีการจราจรติดขัดหนักมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก หลังจากนายปาเนโลออกมาบอกแนะให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางไปให้ถึงที่หมายของตนเองก่อนเวลาที่กำหนด ก็ควรจะต้องออกเดินทางไปให้เร็วขึ้น
ความเห็นนี้ของนายปาเนโลจุดความไม่พอใจให้แก่ชาวฟิลิปปินส์อย่างมาก ที่ตอกกลับนายปาเนโลว่าไม่คำนึงถึงความเป็นจริง โดยหนึ่งในนั้นคือนายจอห์น มารัมบา นักศึกษานักเคลื่อนไหวที่กล่าวกับบีบีซีถึงปัญหาการจราจรในกรุงมะนิลาว่าเป็นปัญหาวิกฤตอย่างที่เป็นมาเสมอ เด็กนักเรียนต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 มาถึงโรงเรียนตอน 8 โมงเช้า ซึ่งใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมง ผู้คนจำนวนหลายล้านคนพึ่งระบบขนส่งสาธารณะเพื่อไปเรียนไปทำงาน แต่ต้องเผชิญกับการจราจรติดขัด รถขนส่งสาธารณะแออัดหนาแน่นและรถไฟยังมาเสียจนให้บริการไม่ได้ ประชาชนต้องลงเดินกลางทาง ทำให้เกิดความเครียดและความไม่พอใจที่มีสาเหตุมาจากระบบคมนาคมที่ย่ำแย่
ขณะที่ชาวเน็ตหลายคนออกมาระบายความรู้สึกโกรธเกรี้ยวต่อความเห็นของนายปาเนโลและความล้มเหลวของระบบขนส่งสาธารณะในประเทศ ที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งทวีตว่า “วิกฤตระบบขนส่งสาธารณะคือเรื่องจริง อย่าไปเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนที่ไม่เคยใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง”
ด้านประธานาธิบดีดูแตร์เตก็ไม่พ้นจากเสียงก่นวิจารณ์ ที่มีชาวเน็ตทวีตเหน็บรัฐบาลนายดูแตร์เตที่ได้สั่งซื้อเครื่องบินทหารเก่าของสหรัฐอเมริกาเมื่อเร็วๆนี้ มีมูลค่า 39.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะมีการส่งมอบในปีหน้า โดยอ้างว่าจะนำมาให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงใช้ในสถานการณ์วิกฤต แต่รัฐบาลกลับไม่ได้เห็นใจประชาชนที่ต้องเผชิญกับปัญหาจราจรเลวร้าย ที่เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ “หากรัฐบาลกลับตบรางวัลให้ตนเองด้วยเครื่องบิน ซึ่งบ้าสิ้นดี” ทวีตหนึ่งระบุ
ทั้งนี้กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินสื มีประชากรอยู่เกือบ 2 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากแห่งหนึ่ง กรุงมะนิลายังมีปัญหาการจราจรแออัดติดขัดหนักมาก ซึ่งในปี 2015 กรุงมะนิลายังถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่แย่ที่สุดสำหรับการขับขี่รถยนต์
