สำนักข่าวเอเอฟพีและบีบีซี รายงานเมื่อวัน 14 ตุลาคม ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ออกมาเตือนว่า ความพยายามใดๆ ที่จะแบ่งแยกจีนจะต้องจบลงด้วยการที่ร่างกายถูกบดขยี้จนกระดูกแตกละเอียดเป็นผุยผง การออกมาแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นระหว่างที่ประธานาธิบดีสีกำลังอยู่ระหว่างเดินทางเยือนเนปาลอย่างเป็นทางการ
แม้ว่าในคำกล่าวของประธานาธิบดีสีที่ถูกเผยแพร่ผ่านแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศจีนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา จะไม่ได้ระบุถึงภูมิภาคใดเป็นการเฉพาะ แต่คำเตือนดังกล่าวถูกมองว่าน่าจะส่งตรงไปถึงฮ่องกง ซึ่งเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีนลุกลามบานปลายเข้าสู่เดือนที่ 4 แล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้ในเร็ววันนี้
“ใครก็ตามที่พยายามจะแบ่งแยกดินแดนไม่ว่าจะในส่วนใดของจีนจะต้องถูกทำลายให้ย่อยยับ ร่างกายจะต้องถูกบดขยี้จนกระดูกแตกละเอียดเป็นผุยผง และกองกำลังภายนอกใดๆ ที่ให้การสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนจีน จะถูกมองได้อย่างเดียวว่าเป็นพวกหลงผิดในสายตาของประชาชนจีน” ประธานาธิบดีสีกล่าว
การออกมาประกาศท่าทีดังกล่าวของประธานาธิบดีสียังมีขึ้นหลังจากที่เหตุประท้วงในฮ่องกงเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ยุติลงด้วยการกลายสภาพเป็นการใช้ความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ทำลายสถานีขนส่งสาธารณะและร้านค้าที่พวกเขาเห็นว่าเข้าข้างจีน
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่ามีการปาระเบิดขวดใส่สถานีตำรวจมงก๊ก และมีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งถูกปาดคอ โดยตำรวจระบุว่าขณะนี้อาการของผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลยังทรงตัว ทั้งยังมีรายงานว่าชายคนหนึ่งถูกผู้ประท้วงรุมทำร้ายร่างกาย เนื่องจากพบกระบองในกระเป๋าของเขา ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นตำรวจที่พรางตัวเข้ามาปะปนกับกลุ่มผู้ประท้วง
ก่อนหน้านี้จีนได้ออกมากล่าวหาว่ามีกองกำลังภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดความวุ่นวายในฮ่องกง อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า จีนจะไม่เสี่ยงที่จะทำให้ถูกประณามจากต่างชาติด้วยการใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ประท้วงในฮ่องกง ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ซึ่งมีรายงานว่าคาดว่ามีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นถึง 1,000 คน
นอกจากนี้ ยังมีกรณีไต้หวัน ที่ประกาศว่าไม่ขึ้นกับจีนแผ่นดินใหญ่หลังยุติสงครามกลางเมืองในปี 1949 แต่จีนยังคงยืนยันว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน
