สหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการคว่ำบาตรตุรกีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พร้อมกับเรียกร้องให้มีการยุติการโจมตีฐานที่มั่นของชาวเคิร์ด ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐในทางตอนเหนือของซีเรียที่ติดกับพรมแดนทางด้านใต้ของตุรกีทันที
การประกาศมาตรการคว่ำบาตรตุรกีของสหรัฐมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกองทัพของรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ส่งทหารกลับเข้าไปประจำการในพื้นที่บางส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ภายใต้การเชื้อเชิญจากกองกำลังชาวเคิร์ดที่สิ้นหวังในการปกป้องตนเอง หลังจากสหรัฐประกาศถอนทหารออกจากซีเรีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรตุรกี ซึ่งถือเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของสหรัฐ หลังจากที่เขาต้องเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในบ้าน เมื่อตัดสินใจถอนทหารออกจากซีเรียและปล่อยให้ชาวเคิร์ดซึ่งถือเป็นพันธมิตรของสหรัฐในการต่อสู้กับกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส)ต้องเผชิญกับความยากลำบากเพียงลำพัง
ทรัมป์ยังขู่ด้วยว่าเขาเตรียมพร้อมที่จะทำลายเศรษฐกิจตุรกี หากผู้นำตุรกียังคงเดินหน้าต่อไปบนหนทางที่อันตรายและทำลายล้างเช่นนี้ และว่าสหรัฐจะยุติการเจรจาการค้าเพื่อจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐกับตุรกีซึ่งมีมูลค่าราว 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านรัฐมนตรีคลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีมหาดไทย และรัฐมนตรีพลังงานของตุรกี ทั้งยังประกาศยึดทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้ในสหรัฐ โดยบุคคลใดที่ทำธุรกรรมกับบุคคลเหล่านี้จะถือว่าประกอบอาชญากรรม ขณะที่สหรัฐยังได้ประกาศนำกำแพงภาษี 50 เปอร์เซ็นต์มาใช้กับเหล็กนำเข้าจากตุรกีอีกด้วย
