ไทยพร้อมจัดประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2-4 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายสุริยา จินดาวงษ์ อธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ  นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ และน.ส.สราญภัทร อนุมัติราชกิจ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคาและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับ 3 เสาความร่วมมืออาเซียน ที่จะขับเคลื่อนในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยในส่วนของเสาด้านการเมือง ความมั่นคง นายสุริยากล่าวว่า จะมีการหารือเกี่ยวกับความยั่งยืน การสร้างความเป็นหุ้นส่วน การเชื่อมโยง ทั้งในภูมิภาคและนอกภูมิภาค รวมถึงหารือเกี่ยวกับอาเซียน 4.0 การกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการใช้ประโยชน์จากการพูดคุยกับประเทศนอกภูมิภาค ที่จะเชื่อมโยงกับแนวคิดอินโด-แปซิฟิก ซึ่งจะหารือเรื่องนี้กับประเทศนอกภูมิภาค เพื่อให้เกิดการสนับสนุนในสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนการสร้างความมีเสถียรภาพความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและการหาทางออกร่วมกัน และการบริหารจัดการชายแดน เพื่อสร้างระบบกรั่นกรองในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ
ขณะที่เสาด้านเศรษฐกิจ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำจะมีการติดตามความคืบหน้าในประเด็นต่างๆ ที่ประเทศไทยผลักดันให้อาเซียนร่วมกันดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จภายในปีนี้ ทั้งการเตรียมความพร้อมของอาเซียนเพื่อรองรับอนาคต การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค และการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจของอาเซียนอย่างยั่งยืนในทุกมิติ รวมทั้งสิ้น 13 ประเด็น ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว 7 ประเด็น และจะมีการเสนอเพิ่มเติมในการประชุมอีก 3 ประเด็น และคาดว่าทั้ง 13 ประเด็นจะสำเร็จภายในปีนี้
นางอรมนกล่าวว่า นอกจากนี้จะมีการติดตามความคืบหน้าการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซป ที่ขณะนี้การเจรจาสามารถสรุปได้แล้ว 14 บท 4 ภาคผนวก จากทั้งหมด 20 บท และ 4 ภาคผนวก ขณะที่การเจรจาเปิดตลาด สามารถสรุปผลได้แล้วถึงร้อยละ 80 และเลือกการเจรจาเปิดตลาดที่จะต้องเร่งหางานหรือกันต่ออีกร้อยละ 3.6 เท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในปีนี้ตามที่ผู้นำอาร์เซปตั้งเป้าไว้
ส่วนเสาด้านสังคม และวัฒนธรรม น.ส.สราญภัทร กล่าวว่า ในการประชุมด้านสังคมและวัฒนธรรมจะสร้างความเชื่อมโยงภาคประชาชน และการสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และเตรียมพร้อมวางแผนด้านความมั่นคงของมนุษย์สำหรับอนาคต และในการประชุมครั้งนี้จะมีการเปิดศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม ศูนย์ฝึกอบรมอาเซียนด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม นอกจากนี้จะมีการเสนอเอกสารผลลัพธ์ต่อที่ประชุม จำนวน 9 ฉบับ แบ่งเป็นเอกสารเพื่อรับรองจำนวน 6 ฉบับ และเอกสารเพื่อทราบจำนวน 3 ฉบับ
ในส่วนของขวัญและของที่ระลึก ประเทศไทยได้จัดเตรียม มาลัยเงิน กระเป๋าย่านลิเภา โถศิลาดล เน็คไท ผ้าพันคอ และผ้าคุมไหล่ ไว้มอบให้ผู้นำและตัวแทนที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image