เศรษฐกิจจีนทรุด โตต่ำสุดในรอบ 27 ปี เหตุจากสงครามการค้า

(Photo by WANG Zhao / AFP)

สำนักข่าวเอเอฟพีและเอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม สำนักงานสถิติแห่งชาติ(เอ็นบีเอส)ของทางการจีน แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของจีนในช่วงไตรมาสที่ 3 ระหว่างเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียง 6.0 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดของจีนในรอบกว่า 27 ปี ลดลงจากระดับ 6.2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญมาจากความต้องการบริโภคภายในประเทศอ่อนตัวลง ในขณะที่สงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกาที่ยืดเยื้อมานานถึง 15 เดือนก็เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างจริงจัง และแม้ว่าจะยังคงอยู่ในช่วง 6.0 เปอร์เซ็นต์ถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายการขยายตัวเอาไว้ในปีนี้ แต่ก็ถือเป็นการแตะระดับต่ำสุดในช่วงเป้าหมายดังกล่าวและชะลอตัวลงจากอัตราการเติบโตเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 6.6 เปอร์เซ็นต์อย่างชัดเจน

นายเหมา เสิ่นหยง โฆษกของเอ็นบีเอส ระบุว่า เท่าที่ผ่านมาใน 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ถือได้ว่าโดยรวมแล้วเศรษฐกิจของประเทศสามารถรักษาเสถียรภาพเอาไว้ได้แต่เตือนด้วยว่า ยังคงมีแรงกดดันมหาศาลที่จะทำให้เศรษฐกิจของจีนชะลอลงไปได้อีก จากสถานการณ์ที่หนักหน่วงและซับซ้อนทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ, ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการไร้เสถียรภาพและความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายนอกประเทศ ทั้งนี้ภาคการผลิตสินค้าระดับไฮเทคและการให้บริการในด้านเดียวกันยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่ออัตราการขยายตัวของจีน ในขณะที่ภาวะการจ้างงานโดยรวมยังมีเสถียรภาพอยู่เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้นายเหมายังพูดถึงการหย่าศึกชั่วคราวที่ตกลงกันได้ในการเจรจาสงครามการรอบล่าสุดที่กรุงวอชิงตันด้วยว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดโลก และจีนเองรู้สึกว่าทั้งเศรษฐกิจโลกและการค้าโลกกำลังขยับไปในทิศทางที่ถูกต้องมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวลานี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image