สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) สื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้กล่าวว่า สิ่งปลูกสร้างเพื่อการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ที่เทือกเขาคัมกัง รีสอร์ตท่องเที่ยวของเกาหลีเหนือ ควรจะถูกรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ขึ้นมาให้ดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งเป็นเหมือนการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันเย็นชาระหว่างสองเกาหลี
โดยนายคิมได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยวบริเวณชายหาดตะวันออกของเกาหลีเหนือ และกล่าวว่า เป็นแนวคิดที่ผิดพลาดสำหรับเทือกเขาคัมกัง ที่ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับใต้ เพราะรีสอร์ตแห่งนี้อยู่นดินแดนของเกาหลีเหนือ และนักท่องเที่ยวที่อยู่ที่นี่ไม่ควรที่จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเกาหลีใต้
“เรายินดีต้อนรับพี่น้องของเราจากตอนใต้ หากพวกเขาต้องการจะมาที่เทือกเขาคุมกัง หลังจากการสร้างจุดหมายท่องเที่ยวระดับโลกอันน่าทึ่งขึ้นมา” นายคิมกล่าว และวิจารณ์ว่า เป็นนโยบายที่ผิดพลาดของบรรพบุรุษที่ต้องพึ่งพากันพัฒนาแแหล่งท่องเที่ยว และว่า เทือกเขาคัมกังควรจะต้องได้รับการดูแลในฐานะส่วนหนึ่งของพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งเทือกเขาและบริเวณชายฝั่งวอนซาน-คัลมา
ขณะที่นายอี ซัง มิน โฆษกกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ กล่าวว่า เกาหลีใต้กำลังตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่ หากมีการร้องขอจากเกาหลีเหนือ ก็จะต้องมีการหารือกันในมุมมองของการปกป้องสิทธิในการครอบครองของพลเรือน จิตวิญญาณของข้อตกลงระหว่างสองเกาหลี และการจัดทัวร์ในเทือกเขาคัมกัง
ทั้งนี้ เทือกเขาคัมกัง เป็น 1 ใน 2 โครงการเศรษฐกิจร่วมระหว่างสองเกาหลี ที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมแกซอง และถือเป็นเครื่องหมายสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองเกาหลีในช่วงหลายสิบปีของการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันนับตั้งแต่สงครามเกาหลีเป็นต้นมา
ทั้งนี้ มีหลายบริษัทจากเกาหลีใต้ ซึ่งรวมทั้ง บริษัท ฮุนได อาซัน คอร์ป และอานันติ อิงค์ ที่ลงทุนด้านการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคัมกัง ซึ่งเป็นช่องทางสร้างรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีให้กับรัฐบาลเปียงยาง
