ปธ.สภาผู้แทนฯสหรัฐลั่น หลักฐานชัด “ทรัมป์” ติดสินบนยูเครน!

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน (เอเอฟพี)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาจากพรรคเดโมแครต กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน หลังเสร็จสิ้นการไต่สวนในวันแรกของกระบวนการพิจารณาถอดถอนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐออกจากตำแหน่ง กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยมิชอบที่มีประเทศยูเครนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยนางเพโลซีกล่าวว่า จากคำให้การของพยาน 2 ปาก ซึ่งรวมถึงทูตพิเศษสหรัฐด้านยูเครนที่นายทรัมป์เป็นคนแต่งตั้งเอง เป็นสิ่งพิสูจน์ความผิดของผู้นำสหรัฐอย่างชัดเจน เพราะเป็นหลักฐานยืนยันว่าเขาทำการ “ติดสินบน” ยูเครนด้วยการขู่จะมอบหรือระงับความช่วยเหลือทางทหารเพื่อแลกกับการที่ยูเครนจะต้องดำเนินการสอบสวนคู่แข่งทางการเมืองของเขา การกระทำดังกล่าวถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบและแสดงให้เห็นถึงความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะทำให้ตนเองเป็นฝ่ายได้เปรียบในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2020

นางเพโลซียังเปรียบเปรยด้วยว่าหลักฐานการกระทำผิดของอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันที่ชิงลาออกจากตำแหน่งไปในปี 1974 หลังจากมีความชัดเจนว่าเขาจะถูกอิมพีชเมนต์นั้น ดูเกือบจะเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับกรณีของนายทรัมป์

เอเอฟพี

ด้านนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ออกโรงปกป้องทรัมป์ในทันทีว่า พยานทั้งสองปากดังกล่าว ซึ่งก็คือนายวิลเลียม เทย์เลอร์ ทูตสหรัฐด้านกิจการยูเครน และนายจอร์จ เคนท์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ไม่เคยได้พูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์ ความเข้าใจในหลักฐานของฝ่ายเดโมแครตนั้นตั้งอยู่บน “ข้อมูลมือสอง” ซึ่งไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถฟ้องร้องกล่าวโทษได้

ทั้งนี้กระบวนการอิมพีชเมนต์ประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มต้นขึ้นภายใต้การกล่าวหาว่าเขาใช้อำนาจโดยมิชอบจากการกดดันให้ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการทุจริตของนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของทรัมป์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในปลายปีหน้า

Advertisement

การไต่สวนแบบเปิดเผยในกระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่งหรืออิมพีชเมนต์ต่อประธานาธิบดีทรัมป์นั้นยังจะดำเนินต่อไปในวันศุกร์(15 พ.ย.)นี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะเป็นการให้ปากคำของนางมาเรีย โยวาโนวิตช์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเครนที่กล่าวอ้างว่าเธอถูกปลดออกจากตำแหน่งเพราะรัฐบาลทรัมป์เชื่อว่าเธอจะไม่ยอมปฏิบัติตามแผนของผู้นำสหรัฐในการกดดันให้ยูเครนดำเนินการสอบสวนนายไบเดน นอกจากนี้ยังมีพยานอีกหลายปาก เช่น นายกอร์ดอน ซอนด์แลนด์ ทูตสหรัฐประจำสหภาพยุโรป ที่นายเทย์เลอร์กล่าวอ้างว่าได้พูดคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีทรัมป์ในการหารือถึงแผนการกดดันผู้นำยูเครน ที่จะเข้าให้ปากคำในสัปดาห์หน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image