เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ชาวศรีลังกาพากันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของศรีลังกา ท่ามกลางการตรึงกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 85,000 นายในทั่วประเทศ หลังจากศรีลังกาเพิ่งผ่านโศกนาฏกรรมเหตุระเบิดโจมตีกลางกรุงจากฝีมือกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส) ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 250 รายเมื่อ 7 เดือนก่อน อย่างไรก็ดีแม้จะมีการตรึงกำลังเข้ม แต่ยังมีรายงานเกิดเหตุกลุ่มมือปืนดักยิงถล่มขบวนรถบัสนับร้อยคัน ที่กำลังนำชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในเมืองชายฝั่งปัตตาลัมไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในเขตมันนาร์ที่อยู่ติดกัน ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ขณะที่มีรายงานว่าในพื้นที่เลือกตั้งบนคาบสมุทรจาฟฟา ทางตอนเหนือของศรีลังกา ซึ่งเป็นพื้นที่ของชาวทมิฬ มีการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งว่ากองทัพได้ตั้งกำลังกีดขวางบนท้องถนน ที่อาจขัดขวางให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงที่คูหาเลือกตั้งได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยอีกว่าได้จับกุมกลุ่มชายผู้ต้องสงสัย 10 คน ที่พยายามสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้เกิดขึ้น
ข่าวแจ้งว่า ชาวทมิฬและชาวมุสลิม ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในศรีลังกา ถูกมองว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่จะตัดสินผู้ชนะในการเลือกตั้งของศรีลังกาที่มีความสูสีกันมาก โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนเกือบ 16 ล้านคน และมีผู้สมัครลงชิงชัยทั้งสิ้น 35 คน ที่น่าจับตาคือนายโกตาบายา ราชปักษา อายุ 70 ปี น้องชายของนายมหินทรา ราชปักษา อดีตผู้นำศรีลังกา ส่วนผลเลือกตั้งคาดว่าจะทราบได้ในราวเที่ยงวันของวันที่ 17 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น
