อดีตผอ.ข่าวกรองออสซี่เผย จีนจ้องครอบงำการเมืองออสเตรเลีย

(AP Photo/Pavel Golovkin, Pool)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ดันแคน ลูอิส อดีตผู้อำนวยการองค์การข่าวกรองเพื่อความมั่นคงแห่งออสเตรเลีย (เอเอสไอโอ) หน่วยงานสืบราชการลับสูงสุดของออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน กล่าวหารัฐบาลจีนว่าต้องการเข้ายึดครองระบบการเมืองออสเตรเลียทั้งระบบด้วยพฤติกรรมซ่อนเงื่อน พุ่งเป้าเข้าไปแทรกแซงตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่งของออสเตรเลีย ทั้งโดยวิธีการจารกรรมและการสร้างอิทธิพลเหนือบุคคลในตำแหน่งต่างๆ ดังกล่าว

นายลูอิส ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายทหารในกองทัพออสเตรเลีย และเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำเบลเยียม กับทูตประจำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งเพิ่งพ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการเอเอสไอโอเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากอยู่ในตำแหน่งมานาน 5 ปี ยืนยันว่าผลจากการดำเนินการดังกล่าวยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีผลกระทบในระยะยาวอย่างไรบ้างแต่เชื่อว่าจะส่งผลก็ต่อเมื่อีกหลายสิบปีซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็จะสายเกินไปแล้ว

“คุณตื่นเช้าขึ้นมาวันหนึ่ง พบว่าการตัดสินใจของประเทศเราไม่ได้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศนี้” อดีตผู้อำนวยการเอเอสไอโอระบุ พร้อมกับเสริมว่า ความพยายามดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกับเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งการเมืองเท่านั้น แต่ยังลงลึกไปถึงระดับชุมชนและในแวดวงธุรกิจ จนสามารถเรียกได้ว่าเป็นความพยายามเข้ายึดครองระบบการเมืองของประเทศ เพื่อควบคุมออสเตรเลียจากต่างแดน อดีตหัวหน้าสำนักงานข่าวกรองของออสเตรเลียย้ำในการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังพ้นตำแหน่งและเป็นการกล่าวหาอย่างตรงไปตรงมาที่สุดหลังจากที่เคยเตือนอ้อมๆ ขณะดำรงตำแหน่งถึงอิทธิพลของต่างชาติต่อระบบการเมืองของออสเตรเลีย

นายลูอิส ระบุว่า สายของทางการจีนมักใช้วิธีการบริจาคเงินก้อนใหญ่ต่อพรรคการเมืองต่างๆ ในออสเตรเลีย เพื่อสร้างอิทธิพลเหนือพรรคหรือนักการเมืองของพรรค และยังพุ่งเป้าไปถึงสื่อมวลชนกับบรรดาสถาบันการศึกษาระดับมหาวิยาลัยอีกด้วย และยกตัวอย่างกรณีนาย แซม ดัสติอารี วุฒิสมาชิกพรรคแรงงานออสเตรเลีย ซึ่งถูกสื่อให้สมญาว่า “เซี่ยงไฮ้แซม” ที่ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งหลังมีการเปิดโปงรับเงินบริจาคหลายหมื่นดอลลาร์จากผู้บริจาคชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยย้ำว่าตนไม่ต้องการสร้างบรรยากาศหวาดระแวงขึ้น เพียงต้องการแสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของสถานการณ์เท่านั้น

Advertisement

สำหรับแนวทางแก้ไขนั้น นายลูอิสเสนอว่า ทางการออสเตรเลียจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากชุมชนชาวจีนซึ่งมีขนาดใหญ่มากในออสเตรเลียในการต่อต้านการสร้างอิทธิพลอย่างลับๆ ของต่างชาติ ในทำนองเดียวกับที่เคยได้ประโยชน์จากความร่วมมือของชุมชนมุสลิมในประเทศในการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายที่ผ่านมา

การให้สัมภาษณ์ของนายลูอิสครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางกระแสถกเถียงกันขนานใหญ่ในออสเตรเลียถึงความพยายามสร้างอิทธิพลเหนือการเมืองในประเทศอื่นๆของจีน ผ่านการบริจาค, การลงทุน และการบริจาคให้ความช่วยเหลือต่อกลุ่มแนวร่วมประจำชุมชนต่างๆ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังประธานาธิบดี สี จิ้นผิงขึ้นดำรงตำแหน่ง โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลออสเตรเลียหลายรายออกมากล่าวหาถึงพฤติกรรมดังกล่าวของจีนก็มีอดีตนายกรัฐมนตรี พอล คีทติง ที่ตอบโต้ผู้ที่กล่าวหาดังกล่าวว่า สติไม่สมประกอบรวมถึงโจมตีสื่อที่รายงานเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ความรู้สึกว่าเป็นพวกเสแสร้งทำความดี เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเคยเตือนถึงการดำเนินการทำนองนี้ต่อออสเตรเลียมาแล้วหลายครั้ง แต่นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน ยืนยันว่า ออสเตรเลียมีระบบทุกอย่างเข้าที่เข้าทางในอันที่จะปกป้องผลประโยชน์ของออสเตรเลียได้ตลอดไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image