เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ธนาคารโลกประมาณการณ์ว่าเหตุไฟป่าที่ประเทศอินโดนีเซียประสบในปีนี้ ได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับอินโดนีเซียมีมูลค่าสูงถึงราว 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 157,000 ล้านบาท โดยยังไม่นับรวมผลกระทบทางด้านสุขภาพจากควันพิษที่ส่งผลให้คุณภาพอากาศแย่ลง
ทั้งนี้เหตุไฟป่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในอินโดนีเซีย แต่ในปีนี้นับว่าเลวร้ายที่สุดนับจากปี 2015 เป็นต้นมา เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง โดยไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ในอินโดนีเซียไปราว 942,000 เฮกตาร์ ส่วนใหญ่อยู่บนเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว โดยธนาคารโลกเผยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมว่า เหตุไฟป่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอินโดนีเซียมีมูลค่าราว 5,200 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 0.5 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในจำนวนนี้ราว 157 ล้านดอลลาร์ เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยตรง และอีกราว 5,000 ล้าน เป็นความสูญเสียในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม การค้า การท่องเที่ยว การคมนาคมและสิ่งแวดล้อม
“ภาคการเกษตรและสิ่งแวดล้อมได้รับความเสียหายมากกว่าครึ่งของความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่มีการประมาณการณ์ไว้ เนื่องจากไฟป่าได้ทำลายพืชผลการเกษตรที่มีการเพาะปลูกจำนวนมากและยังทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกทำลายชั้นบรรยากาศโลกอย่างสำคัญ” ธนาคารโลกระบุในรายงานเศรษฐกิจอินโดนีเซียรายไตรมาส และ ว่า เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบให้สนามบินหลายสิบแห่งและโรงเรียนหลายร้อยแห่งในประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงมาเลเซียและสิงคโปร์ ต้องปิดลงชั่วคราว ขณะที่ประชาชนมากกว่า 900,000 คน ต้องประสบกับความเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
