จากกรณีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ สั่งการให้โดรนยิงถล่มใส่ขบวนรถของนายคัสเซม โซไลมานี ผู้นำทหารระดับสูงของอิหร่านจนเสียชีวิตที่สนามบินนานาชาติ กรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ขณะที่ผู้นำอิหร่านประกาศจะแก้แค้นอย่างสาสม ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ก่อนที่ล่าสุดทรัมป์ จะทวีตข้อความขู่อิหร่านว่า หากอิหร่านโจมตีใส่สหรัฐเพื่อแก้แคน สหรัฐอเมริกาจะโจมตีเป้าหมาย 52 จุดที่มีความสำคัญต่ออิหร่านและวัฒนธรรมของอิหร่าน
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากทางการอิหร่านแล้ว โดยนายโมฮัมหมัด จาวาด ชารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ได้ทวีตข้อความตอบโต้ทรัมป์ หลังจากทรัมป์ทวีตไม่กี่ชั่วโมง ระบุว่า การโจมตีใส่เป้าหมายทางวัฒนธรรมเป็นอาชญากรรมสงคราม
“โจมตีแหล่งวัฒนธรรมเป็นอาชญากรรมสงคราม” นายชารีฟ ทวีต
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ จะประกาศผ่านทวิตเตอร์อย่างแข็งกร้าวว่า สหรัฐอเมริกาได้กำหนดเป้าหมายโจมตีอิหร่านไว้แล้ว 52 จุด ในกรณีที่อิหร่านกล้าที่จะโจมตีตอบโต้สหรัฐอเมริกาจริงอย่างที่ประกาศ โดยขยายความเอาไว้ด้วยว่า เป้าหมายที่กำหนดไว้นั้น “เป็นเป้าหมายระดับสูง ที่มีความสำคัญทั้งต่ออิหร่านและต่อวัฒนธรรมของอิหร่าน” นอกจากนี้ยังทวีตว่า สหรัฐอเมริกาจะใช้ยุทโธปกรณ์ “ที่งดงามใหม่ถอดด้าม” ในทันทีที่อิหร่านลงมือตอบโต้โดยไม่ลังเล