เมื่อวันที่ 11 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไต้หวันจำนวนราว 19 ล้านคน เดินทางออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาไต้หวัน ในการเลือกตั้งที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยมีการมองว่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการดำเนินความสัมพันธ์ของไต้หวันที่มีกับจีน มหาอำนาจในภูมิภาค ที่ถือไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน
ข่าวแจ้งว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไต้หวันมารอต่อแถวยาวเหยียดอยู่หน้าคูหาเลือกตั้งก่อนที่จะมีการเริ่มเปิดให้เข้าไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้เมื่อเวลา 08.00 น.และจะปิดการลงคะแนนเสียงลงในเวลา 16.00 น. โดยคาดหมายว่าผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งเบื้องต้นจะทราบได้ในช่วงค่ำวันเดียวกัน
ประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ผู้แสดงตัวเป็นผู้ปกป้องคุณค่าเสรีภาพของไต้หวัน ซึ่งลงแข่งขันในการรักษาเก้าอี้ประธานาธิบดีไว้เป็นสมัยที่ 2 ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเสร็จสิ้นที่คูหาเลือกตั้งในกรุงไทเปว่า เราหวังว่าประชาชนจะพากันออกมาใช้สิทธิและทำให้ประชาธิปไตยของไต้หวันแข็งแรงมากขึ้น
ด้านนายหัน กัว หยู่ อายุ 62 ปี ผู้ท้าชิงคนสำคัญจากพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งแสดงท่าทีสนับสนุนการมีความสัมพันธ์อันเป็นมิตรมากขึ้นกับจีน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการเข้าใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้งในเมืองเกาสง
ข่าวแจ้งว่า ผลการเลือกตั้งของไต้หวันครั้งนี้ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากมหาอำนาจในภูมิภาค โดยเฉพาะจากจีนที่แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีไช่อยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป และสหรัฐอเมริกา ที่เป็นพันธมิตรทางทหารกับไต้หวัน