“โสมแดง” ขู่หาหนทางใหม่พัฒนาอาวุธ หากมะกันไม่เลิกมุ่งร้าย

แฟ้มภาพเอเอฟพี

เมื่อวันที่ 22 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เกาหลีเหนือออกโรงเตือนว่าอาจต้องแสวงหาวิถีทางใหม่และเร่งเดินหน้าโครงการพัฒนาอาวุธของตนเอง ซึ่งเป็นท่าทีที่มีขึ้นหลังจากสหรัฐอเมริกาทำการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติมเมื่อเร็วๆนี้ ท่ามกลางการเจรจากรณีพิพาทด้านนิวเคลียร์ระหว่างสองชาติที่หยุดชะงักไป

โดยนายจู ยอง ชอล ผู้แทนเกาหลีเหนือ กล่าวในการประชุมว่าด้วยการปลดอาวุธ ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 21 มกราคมว่า ความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐ กลับต้องเผชิญกับท่าทีที่มุ่งร้าย และว่า เกาหลีเหนือจะพัฒนาอาวุธทางยุทธศาสตร์ที่จำเป็นและต้องมีก่อนเพื่อความมั่นคงของชาติ จนกว่าสหรัฐจะละทิ้งนโยบายมุ่งร้ายและบังเกิดสันติสุขอย่างคงทนถาวรบนคาบสมุทรเกาหลี พร้อมกับชี้ว่าขอบเขตการพัฒนาอาวุธของเกาหลีเหนือนั้นจะขึ้นอยู่กับท่าทีของสหรัฐในอนาคต

“หากสหรัฐยังยืนกรานที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรและกดดันประเทศของเรา เราก็อาจจำต้องแสวงหาหนวิถีทางใหม่เพื่อกปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติสูงสุดของเรา” จู ยอง ชอล กล่าว

คำเตือนของผู้แทนเกาหลีเหนือมีขึ้นหลังจากเมื่อต้นเดือนมกราคมนี้รัฐบาลสหรัฐประกาศยึดทรัพย์ในสหรัฐของบริษัท 2 แห่งที่ใช้แรงงานเกาหลีเหนือในต่างแดน โดยการทำธุรกรรมใดๆ กับแรงงานเกาหลีเหนือดังกล่าวถือเป็นการก่ออาชญากรรม หนึ่งในมาตรการที่สหประชาชาติสนับสนุนในการควบคุมทางการเงินของเกาหลีเหนือ

Advertisement

ทั้งนี้ในปี 2017 สหรัฐระบุว่ามีแรงงานเกาหลีเหนืออยู่ในต่างประเทศราว 100,000 คน ซึ่งสามารถนำเงินกลับเข้าประเทศได้ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image