จากกรณีเกิดแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 6.8 แมกนิจูดในเมืองเซรือจา จังหวัดเอลาซือ จังหวัดตะวันออกของตุรกี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารพังถล่มลงมาหลายหลัง ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มกราคมพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 31 รายแล้วขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง
หน่วยงานบริหารจัดการภาวะฉุกเฉินของตุรกี (เอเอฟเอดี) ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 31 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,607 ราย โดยเอเอฟเอดีระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานเพื่อหาผู้รอดชีวิตอย่างต่อเนื่องล่าสุดสามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากใต้ซากปรักหักพังขึ้นมาได้แล้ว 45 ราย โดยยังคงมีอีกเกือบ 20 รายที่ยังคงติดอยู่ใต้ซากอาคารในเวลานี้
รายงานระบุว่าเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวส่งผลให้มีอาคาร 80 หลังพังถล่มลงมาและยังมีอาคารบ้านเรือนอีก 645 หลังที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักทั้งในจังหวัดเอลาซือ และในจังหวัดใกล้เคียงอย่างมาลัตยาด้วย
ด้านนายเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ประธานาธิบดีตุรกี ยกเลิกกำหนดการแถลงในเมืองอิสตันบูล ก่อนจะเดินทางลงพื้นที่ประสบภัยโดยร่วมงานศพของเหยื่อแผ่นดินไหวในจังหวัดเอลาซือ ก่อนเดินทางลงพื้นที่จังหวัดมาลัตยา โดยประธานาธิบดีตุรกี ระบุเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมาว่า หน่วยงานด้านการเคหะของประเทศตุรกีจะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครถูกปล่อยให้ไม่มีบ้านอาศัย
รายงานระบุด้วยว่า รัฐบาลตุรกีส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนกว่า 3,500 นายลงพื้นที่ค้นหาและกู้ภัย ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวจัด จนต้องมีการจุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นกับผู้ประสบภัย รวมไปถึงมีการลำเลียงเตียงนอน เต็นท์ ผ้าห่มจำนวนหลายพันชุดลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
ทั้งนี้เมืองเซรือจา เป็นเมืองที่มีประชากรราว 4,000 คน อยู่ในจังหวัดเอลาซือตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลสาบฮาซาร์ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในพื้นที่ โดยทะเลสาบดังกล่าวนอกจากจะเป็นต้นน้ำของแม่น้ำไทกรีซแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณที่จมอยู่ใต้น้ำซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึง 4,000 ปี ด้วย
