สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่าสหรัฐอเมริกาตัดสินใจปรับให้ไทยพ้นจากกลุ่มประเทศในระดับ “เทียร์3” ในการจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ (ทิปรีพอร์ต) หรือกลุ่มประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายสหรัฐ และไม่มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเตรียมประกาศอย่างเป็นทางการช่วงค่ำวันที่ 30 มิถุนายนนี้ตามเวลาประเทศไทย
รายงานระบุว่า การปรับอันดับซึ่งได้รับการยืนยันโดยเจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐที่ประจำทั้งในกรุงวอชิงตัน และกรุงเทพฯ ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปรับกลุ่มประเทศสถานการณ์การค้ามนุษย์ นั้นจะเป็นการกระชับสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐซึ่งไม่มีพัฒนาการหลังกองทัพก่อการรัฐประหารเมื่อปี 2557 ให้ดีขึ้น
โดยการปรับอันดับดังกล่าวมีขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐพยายามที่จะหลอมรวมความเป็นหนึ่งระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเผชิญกับการอ้างสิทธิของจีนในทะเลจีนใต้
รอยเตอร์รายงานด้วยว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า รายงานการปรับอันดับนั้นจะอ้างถึง พัฒนาการในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมประมงของไทยที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การปรับอันดับดังกล่าวจะทำให้ไทยกลับขึ้นไปอยู่ในระดับ “เทียร์ 2 วอตช์ลิสต์” หรืออันดับที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าจะพูดถึงเรื่องนี้หลังมีการเปิดเผยรายงานทิปรีพอร์ตอย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ ประเทศไทยถูกปรับอันดับจาก “เทียร์ 2 วอตช์ลิสต์” ลงมาเป็น “เทียร์3” อันดับต่ำสุดของการจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ เมื่อปี 2557 เพียงสัปดาห์เดียวหลังกองทัพก่อรัฐประหาร ขณะที่เมื่อปี 2558 เจ้าหน้าที่ทางการไทยต้องแสดงความไม่พอใจอย่างมากหลังมาเลเซียได้รับการปรับอันดับพ้นจาก “เทียร์3” ก่อนไทย ขณะที่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนก็เห็นด้วยว่าไทยนั้นแก้ปัญหาค้ามนุษย์ได้ดีกว่ามาเลเซีย
