เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตามร้านค้าซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ในประเทศสิงคโปร์ เต็มไปด้วยประชาชนที่ออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของที่จำเป็น จนทำให้ชั้นวางขายสินค้าหลายแห่งแทบจะไม่มีสินค้าวางขาย เนื่องจากมีผู้มาจับจ่ายซื้อไปเก็บไว้กักตุนเป็นจำนวนมาก หลังจากทางการสิงคโปร์ยกระดับการเตือนภัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศเป็นระดับสีส้ม ที่บ่งชี้ว่าเป็นสถานการณ์รุนแรงและมีการติดต่อจากคนสู่คนได้ง่าย หลังจากสิงคโปร์รายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ในประเทศแล้วจำนวน 33 ราย
แม่บ้านชาวสิงคโปร์รายหนึ่งเปิดเผยขณะหาซื้ออาหารและข้าวของเครื่องใช้จำเป็นว่า ตนเกรงว่าหากมีรัฐบาลยกระดับเตือนภัยสูงขึ้นไปอีก จะทำให้ไม่สามารถออกมานอกบ้านได้
ทั้งนี้ระดับเตือนภัยคุกคามจากการแพร่ระบาดของโรคในประเทศสิงคโปร์นั้นมีทั้งหมด 4 ระดับ โดยสีแดงเป็นระดับเตือนภัยสูงสุด รองลงมาคือสีส้ม
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสิงคโปร์ได้ร้องขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ไม่ต้องตื่นตระหนก โดยนายชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีการค้าสิงคโปร์ชี้ว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องเร่งรีบซื้อสินค้าจำเป็นไว้กักตุน โดยกล่าวว่า”เรายังไม่ได้อยู่ในความเสี่ยงที่จะขาดแคลนอาหารหรือสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือนที่จำเป็น”
