ไวรัส “โควิด-19” ระบาด ไม่กระทบยอดเปิบค้างคาวในอินโด!

สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า การขายค้างคาวเพื่อกินเป็นอาหารในตลาดค้าสัตว์ป่าในประเทศอินโดนีเซีย ยังคงไม่ได้รับผลกระทบให้มียอดขายลดลงจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 1,355 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน และทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเกือบ 60,000 ราย โดยต้องสงสัยว่าไวรัสดังกล่าวอาจมีต้นตอการแพร่เชื้อมาจากค้างคาวที่จำหน่ายอยู่ในตลาดขายสัตว์ป่าในเมืองอู่ฮั่นของจีน ที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด

จากการเปิดเผยของพ่อค้าขายค้างคาว ในตลาดค้าสัตว์ป่าโทโมฮอน ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ บนเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย บอกว่า เขายังคงขายค้างคาวที่นำไปประกอบอาหารได้ตามปกติ ที่เขาขายตกกิโลกรัมละ 60,000 รูเปียห์ (ราว 140 บาท) ซึ่งในแต่ละวันจะขายค้างคาวได้ที่ประมาณ 40-60 กิโลกรัม และว่า การแพร่ระบาดของไวรัสไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขายค้างคาวของเขาให้ลดลง โดยลูกค้ายังคงแวะเวียนเข้ามาซื้อหาเหมือนเช่นเคย

ขณะที่วิลเลียม ดับเบิลยู.วองโซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอินโดนีเซีย บอกว่า ค้างคาวเป็นแหล่งโปรตีนยอดนิยม โดยเฉพาะคนในสุลาเวสีเหนือ ส่วนตัวเขาที่ชอบกินที่สุดของค้างคาวคือปีก ซึ่งในการทำนั้นจะต้องตัดต่อมตรงใต้ปีกและคอค้างคาวออกเป็นสิ่งเสียก่อนเพื่อขจัดกลิ่นก่อนนำไปปรุงอาหาร

เจ้าของร้านอาหารอีกรายที่มีเมนู “แกงกะทิค้างคาว” ไว้บริการลูกค้า บอกเคล็ดลับถึงวิธีทำแกงกะทิค้างคาวว่า หากทำไม่ดี ค้างคาวก็อาจเป็นอันตรายได้ ซึ่งทางร้านทำค้างคาวไว้เป็นอย่างดี และตอนนี้จำนวนลูกค้าของทางร้านก็ไม่ได้ลดลงไปเลย

Advertisement

อย่างไรก็ดีรัฐบาลอินโดนีเซียได้ร้องขอให้ผู้ประกอบการร้านอาหารนำเมนูเปิบพิสดารอย่าง ค้างคาว ออกไปจากเมนูอาหารแล้ว โดยเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นกล่าวว่าได้ร้องขอให้ประชาชนอย่าบริโภคเนื้อสัตว์ที่ต้องสงสัยเป็นพาหะนำเชื้อโรคร้ายแรง ขณะที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอินโดนีเซียแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image