เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สหรัฐอเมริกาเดินหน้ากดดันทางการค้ากับสหภาพยุโรป (อียู) ต่อด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเครื่องบินจากบริษัทแอร์บัส ผู้ประกอบอุตสาหกรรมอากาศยานยักษ์ใหญ่ของยุโรป เป็น 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมนี้เป็นต้นไป จากที่สหรัฐเรียกเก็บอยู่ในอัตรา 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หลังจากสหรัฐประกาศงัดมาตรการทางภาษีมาใช้กับสินค้านำเข้าจากอียูมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อตอบโต้ที่อียูทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม
โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) เป็นผู้แถลงมาตรการล่าสุดนี้เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเจรจาอย่างจริงจังเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้ากับอียู
การใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้อียูของสหรัฐในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา มีขึ้นหลังจากสหรัฐได้รับไฟเขียวจากองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ให้ดำเนินมาตรการทางการค้าตอบโต้อียูได้ จากเหตุที่อียูให้การอุดหนุนบริษัท แอร์บัส ผู้ผลิตอากาศยานยักษ์ใหญ่ของอียู โดยนอกจากสหรัฐจะตั้งกำแพงภาษีรีดเก็บจากเครื่องบินนำเข้าจากแอร์บัสแล้ว สหรัฐยังเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25 เปอร์เซ็นต์ จากสินค้านำเข้าอื่นๆ จากอียูด้วย เช่น ไวน์ ชีส กาแฟ และน้ำมันมะกอก
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
