สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 กรกฎาคมว่า การเลือกตั้งทั่วไปในประเทศออสเตรเลียที่มีขึ้นในวันเดียวกันนี้เป็นไปอย่างสูสี โดยการนับคะแนนเสียงที่ดำเนินไปแล้วเกินครึ่งหนึ่งผลปรากฎว่าเสียงสนับสนุนราว 3.3 เปอร์เซ็นต์ เทห่างออกจากรัฐบาลผสมที่นำโดยนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษนิยม นั่นทำให้ความมุ่งมั่นที่จะครอบครองเสียงข้างมากในสภาของนายเทิร์นบูลตกอยู่ในห้วงอันตราย โดยพรรครัฐบาลของนายเทิร์นบูลจะต้องคว้าที่นั่งในสภาให้ได้ 76 ที่นั่งจากที่มีทั้งสิ้น 150 ที่นั่ง เพื่อที่จะได้กุมอำนาจบริหารประเทศไว้ในมือต่อไปโดยไม่ต้องพึ่งพาเสียงสนับสนุนจากผู้สมัครอิสระและพรรคการเมืองเล็กอื่นๆ
สถานการณ์แข่งขันที่สูสีกันมากครั้งทำให้สถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลียชี้ว่าอาจจะทำให้ไม่สามารถทราบผลการเลือกตั้งทั่วไปภายในค่ำคืนวันเดียวกันนี้ได้
ข่าวแจ้งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากกว่า 10 ล้านคน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศทั้งสิ้นราว 15.6 ล้านคน ซึ่งสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าดูเหมือนว่าชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่จะอยู่ในห้วงอารมณ์ที่ต้องการลงโทษพรรคการเมืองใหญ่ๆ โดยหันมาโหวตให้กับผู้สมัครอิสระและพรรคการเมืองเล็กๆกันเป็นจำนวนมาก
การแข่งขันเป็นที่จับตาระหว่างพรรคอนุรักษนิยมของนายเทิร์นบูล ในวัย 61 ปีว่าจะรักษาการกุมอำนาจบริหารประเทศ พ้นจากการท้าทายของพรรคแรงงานที่นำโดยนายบิล ชอร์ทเทน ฝ่ายค้านของออสเตรเลียได้หรือไม่ ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นชาวออสเตรเลียของนิวส์โพลที่จัดทำขึ้นหลังสิ้นสุดการหาเสียงเลือกตั้งที่มีขึ้นราว 8 สัปดาห์ ซึ่งมีการเผยแพร่ออกมาเมื่อวันก่อนชี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลของนายเทิร์นบูลจะชนะพรรคแรงงานด้วยเสียงสนับสนุน 50.5 ต่อ 49.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่โพลของซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ชี้ว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปอย่างสูสีมาก
