เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐอเมริกาได้ส่งเครื่องบินโดยสารเช่าเหมาลำจำนวน 2 ลำ ไปอพยพชาวอเมริกันที่อยู่บนเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซส กลับประเทศสหรัฐแล้ว ซึ่งจะมีรัฐบาลอีกหลายชาติที่เตรียมจะไปอพยพพลเมืองของตนเองที่ถูกกักโรคอยู่บนเรือสำราญลำนี้กลับประเทศ ทั้งแคนาดา ออสเตรเลีย อิตาลี และ ฮ่องกง
ข่าวแจ้งว่า เครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำของสหรัฐ ได้อพยพชาวอเมริกันกว่า 300 คน บนเรือไดมอนด์ปรินเซส ซึ่งรวมถึงชาวอเมริกันที่ถูกตรวจพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 14 คนโดยสารกลับมาด้วย แต่ถูกแยกพื้นที่นั่งจากกลุ่มที่ถูกตรวจไม่พบว่าติดเชื้อ โดยเครื่องบินลำแรกที่อพยพชาวอเมริกันพร้อมครอบครัวกลับมาลงจอดที่ฐานทัพอากาศทราวิส ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วนลำที่ 2 ลงจอดที่ฐานทัพอีกแห่งในเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส โดยชาวอเมริกันที่ได้รับการอพยพกลับมาทั้งหมดนี้ จะถูกกักเพื่อรอดูอาการเป็นเวลา 14 วัน ส่วนชาวอเมริกันที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทางจากญี่ปุ่น จำนวน 14 คน จะถูกส่งไปแยกกักรักษาตัวในทันที
อย่างไรก็ตามยังมีชาวอเมริกันอีกกว่า 40 คนบนเรือไดมอนด์ปรินเซส ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ไม่ได้รับการอพยพกลับมาด้วย เนื่องจากกลุ่มผู้ติดเชื้อดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทาง โดยทั้งหมดถูกยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในญี่ปุ่น และมีรายงานว่าชาวอเมริกันบนเรือไดมอนด์ปรินเซสอีกจำนวนหนึ่งปฏิเสธที่จะอพยพกลับมาด้วย เนื่องจากมองว่าตนเองใกล้จะอยู่ครบระยะของการถูกกักโรคบนเรือไดมอนด์ปรินเซสในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้แล้ว
ด้านนายสก๊อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า จะไปรับชาวออสเตรเลียกว่า 200 คนที่อยู่บนเรือไดมอนด์ปรินเซสกลับมาในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ และทั้งหมดจะถูกส่งไปกักโรคเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์เป็นเวลา 14 วัน ที่ที่เคยถูกใช้เป็นแคมป์ที่พักเหมืองใกล้กับเมืองดาร์วิน ซึ่งมีชาวออสเตรเลียที่ได้รับการอพยพกลับมาจากจีนจำนวน 266 คน ถูกส่งตัวมากักโรคที่นี่อยู่ก่อนแล้ว