สื่อญี่ปุ่น ตีแผ่ปรากฏการณ์ “ยูธเควก” พลังคนรุ่นใหม่ที่กำลังสั่นสะเทือนสังคมไทย

สื่อญี่ปุ่น ตีแผ่ปรากฏการณ์ “ยูธเควก” พลังคนรุ่นใหม่ที่กำลังสั่นสะเทือนสังคมไทย

นิคเคอิเอเชียนรีวิว นิตยสารรายสัปดาห์ของประเทศญี่ปุ่น เผยแพร่บทความเกี่ยวกับปรากฏการณ์ “ยูธเควก” หรือแรงสั่นสะเทือนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยที่ถูกสังคมยุคเก่ากดทับมาเป็นเวลานานและกำลังลุกขึ้นแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อกลุ่มอนุรักษ์นิยมผู้มีอำนาจ รวมไปถึงรัฐบาลทหาร มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

นิคเคอิเอเชียนรีวิว ระบุว่า กลุ่มเยาวชนที่เกิดในช่วงทศวรรษที่ 90 ในสังคมไทยกำลังแสดงความไม่พอใจต่อวิกฤตการเมืองในสังคมไทยโดยเฉพาะในยุครัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากรัฐบาลทหาร โดยคนกลุ่มนี้ผ่านช่วงเวลาของวิกฤตการเงินเอเชีย การรัฐประหาร 2 ครั้ง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเวลานี้กำลังเผชิญกับกระแสเผด็จการ และแนวคิดอนุรักษ์นิยม ที่กำลังขยายตัวนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจเมื่อปี 2014 และกลุ่มคนกลุ่มนี้ไม่ได้นิ่งเฉย และเริ่มแสดงออกสะท้อนผ่านความนิยมในเพลงอย่าง “ประเทศกูมี” รวมไปถึงแสดงออกผ่านโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

นิคเคอิเอเชียนรีวิว ยกตัวอย่าง Rap Against Dictatorship เจ้าของเพลงประเทศกูมี รวมไปถึง โชติรส นาคสุทธิ์ เจ้าของเพจ สตรีผู้หลงใหลในบทกวี เพจเจ้าแม่ และ เพจยั่ว-Yed ที่เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เริ่มกล้าที่จะแสดงออกและเป็นเสียงสะท้อนความไม่พอใจของคนรุ่นใหม่ในสังคมไทยที่มีมากขึ้น

บทความระบุว่ารัฐบาล นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร ใช้วิธีการเผด็จการแบบดั้งเดิมในการกดความไม่พอใจของคุณรุ่นใหม่เอาไว้ เช่นการออกกฎหมายห้ามการชุมนุมทางการเมือง การเรียกผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลปรับทัศนคติ การเซ็นเซอร์โซเชียลมีเดีย การตั้งข้อหาประชาชนในโลกออนไลน์ฐานยุยงปลุกปั่น นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยถูกทำร้ายร่างกายกลางวันแสกๆ โดยไม่ได้มีการนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี รวมไปถึงความพยายามในการยุบพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงจากกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่กลัวที่จะลุกขึ้นมาท้าทายกลุ่มอนุรักษ์นิยมแต่อย่างใด

Advertisement

“เราควรที่จะสามารถลุกขึ้นมาท้าทายวัฒธรรมอนุรักษ์นิยมและสิ่งที่รัฐบาลบอกเกี่ยวกับประเทศไทยว่าเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม ผู้คนมีความสุข ซึ่งนั่นเป็นเพียงนิทานและเป็นโฆษณาชวนเชื่อของกระทรวงท่องเที่ยวของไทย” โชติรส ระบุ

นิคเคอิ ระบุว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่มองว่าประเทศไทยกำลังก้าวถอยหลัง โดยเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่หดตัวลงเรื่อยๆ คนรุ่นใหม่หางานทำได้ยากขึ้น ภาวะว่างงานของนักศึกษาจบใหม่กำลังขยายตัว กลายเป็นสถานการณ์ที่คนรุ่นใหม่กำลังมองว่าประเทศกำลังอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง

บทความระบุว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจเหล่านี้ในลักษณะที่สร้างสรรเช่นการจัดงาน “วิ่งไล่ลุง” ที่มีคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานนับหมื่นคน ขณะที่โลกออนไลน์ก็มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ “เพจไข่แมว” เพจการ์ตูนล้อเลียนการเมืองที่มีผู้ติดตามครึ่งล้านคนก็สะท้อนการเคลื่อนไหวทางการเมืองในโลกออนไลน์ในประเทศไทยได้เช่นกัน

Advertisement

นิคเคอิ ระบุถึง “พรรคอนาคตใหม่” ในหัวข้อ “อนาคตอันยากลำบาก” ว่าเป็นพรรคที่ได้รับการสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมากสร้างปรากฏการณ์ครองเก้าอี้ในสภาได้ถึง 81 ที่นั่งด้วยการหาเสี่ยงผ่านทางออนไลน์เป็นหลัก กลับถูกจ้องเล่นงานจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมด้วยการใช้กฎหมายดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคดีถือหุ้นสื่อของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค คดีที่พรรคได้รับเงินจากธนาธร 191 ล้านบาทก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2019 ที่ผ่านมา

บทความระบุว่า กลุ่มอำนาจด้านความมั่นคงใช้วิธีการต่อสู้กับคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยด้วยวิธีการแบบเผด็จการยุค โดยหน่วยงานอย่าง กองอำนายการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. หน่วยงานที่เคยตั้งขึ้นในยุคสงครามเย็นเพื่อไล่ล่าคอมมิวนิสต์ มามีบทบาทมากในยุคของประยุทธ์ ในการบังคับให้เยาชนคนรุ่นใหม่เข้าร่วมขบวนการรักชาติ โดยกอ.รมน. มีการตั้งเป้าในการดึงคนเข้าร่วมโดยงบประมาณส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในโครงการเหล่านี้

นอกจากนี้ กอ.รมน. ยังสร้างเฟซบุ๊กแฟนเพจ “007สายข่าวความมั่นคง” ในการสอดส่องและรับแจ้งเรื่องราวกิจกรรมที่แสดงถึงความไม่รักชาติ สื่อออนไลน์หมิ่นสถาบัน ข่าวภัยความมั่นคงของชาติ เป็นต้นขณะที่รัฐบาลภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังตั้ง “วอร์รูม” ที่พยายามสอดส่องสิ่งที่เรียกว่า “เฟคนิวส์” และพยายามกล่าวหากิจกรรมทางออนไลน์บางอย่างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง

“สื่อโซเชียลนั้นทรงอานุภาพกว่าอาวุธที่กองทัพมีอยู่” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ กล่าวไว้ในการบรรยายพิเศษเมื่อเดือนเมษายน 2019

นิคเคอิ สรุปในช่วงท้ายว่าวิธีแบบเก่าของรัฐบาลนั้นดูเหมือนจะไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับรัฐบาลทหารของไทยได้สายการควบคุมในปัจจุบันนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว คนกลุ่มนี้กำลังพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่ตนจะมีกับการเมืองไทย กำลังมองหาผู้นำรุ่นใหม่ที่จะสามารถสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิเลือกตั้ง

นิคเคอิ อ้างแหล่งข่าววงในว่า กลุ่มอำนาจเก่าในกองทัพนั้น ซึ่งใช้ประโยชน์จากความแตกแยกทางการเมืองและสังคมเช่น กลุ่มแนวคิดอนุรักษ์นิยมกับแนวคิดปฏิรูป กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายได้น้อยกับคนรวย เพื่อสืบทอดอำนาจเหนือประชาธิปไตยของไทย เวลานี้กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่เอาชนะได้ยากมากนั่นก็คือ “ความแตกแยกระหว่างวัย” ขณะที่ขอบเขตทางการเมืองจะไม่ใช่ เมืองกับชนบท หรือเมืองหลวงกับต่างจังหวัดอีกต่อไป แต่จะเป็น “โซเชียลมีเดีย” ขอบเขตซึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังมีชัยชนะในสนามนี้

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image