‘บัวแก้ว’ ย้ำผีน้อยกลับไทยได้ไม่โดนคดีถึง 30 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีรายงานข่าวคนไทยที่พำนักเกินวีซ่าในเกาหลีใต้เข้ารายงานตัวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนครแทกู เพื่อแสดงความประสงค์เดินทางกลับไทย หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ปัจจุบันทางการเกาหลีใต้มีมาตรการให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่เกินวีซ่าแสดงความสมัครใจออกนอกประเทศได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ และไม่มีโทษห้ามกลับเข้าเกาหลีใต้ ซึ่งกรมการกงสุลได้เคยประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้แล้ว

นายเชิดเกียรติกล่าวว่า ในขณะนี้เกาหลีใต้ยังไม่มีมาตรการปิดเมือง หรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด โดยคนไทยในเกาหลีใต้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย สามารถเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน ไปติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในเขตที่พักอาศัยอยู่ได้ทันที โดยทางการเกาหลีใต้จะใช้เวลาประมาณ 3-15 วัน ในการออกเอกสารยืนยันการออกนอกประเทศ ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกรายจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานในสถานพยาบาลที่ทางรัฐกำหนด และรัฐบาลเกาหลีใต้จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่พำนักในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมายหรือไม่ นอกจากนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ยืนยันว่า ผู้ป่วยทุกคนจะไม่ถูกจับกุมและไม่ถูกส่งตัวกลับหากไม่สมัครใจ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า สถานเอกอัครราชทูตได้สอบถามสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับทราบว่า นับแต่เดือนธันวาคม 2562 จนถึง 1 มีนาคม 2563 มีคนไทยไปรายงานตัวแล้วกว่า 5,000 คน ส่วนเฉพาะที่นครแทกู สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ข้อมูลว่ามีคนไทยรายงานตัวรวมจำนวน 136 คน ทั้งนี้คนไทยที่เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จะต้องผ่านมาตรการคัดกรองของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และกักตัวเพื่อดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

Advertisement

นายเชิดเกียรติกล่าวว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อติดต่อประสานงาน แจ้งข่าวสาร สอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางขอรับคำปรึกษาด้านสุขภาพกับหน่วยงานของเกาหลีใต้ โดยในกลุ่มไลน์ดังกล่าว มีคนไทยในพื้นที่ระบาดสูง จ. คยองซัง-เหนือ ถึงรวมนครแทกู เข้าร่วมประมาณ 270 คน และมีผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยให้คำแนะนำในกลุ่มดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูตยังได้ติดตามสถานการณ์ความเป็นอยู่ของชาวไทยในพื้นที่ดังกล่าวกับตัวแทนเครือข่ายคนไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยรวมคนไทยยังคงใช้ชีวิตตามแนวทางของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยหลีกเลี่ยงที่ชุมชนและการเดินทางโดยไม่จำเป็น และสถานเอกอัครราชทูตกำลังดำเนินการจัดส่งหน้ากากอนามัยให้กับคนไทยในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในการหาซื้อด้วย หากคนไทยในเกาหลีใต้มีเหตุเร่งด่วน สามารถติดต่อฮอตไลน์สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่หมายเลข +82-106747 0095 และสามารถติดตามข่าวและประกาศของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทาง Facebook: “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล Royal Thai Embassy, Seoul”

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image