เว็บไซต์เอเชียไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า นับตั้งแต่นายโรดริโก ดูแตร์เต ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์ได้เพียงแค่ 4 วัน ตำรวจได้สังหารผู้ค้ายาเสพติดไปถึง 45 ราย อันเป็นไปตามนโยบายการกวาดล้างยาเสพติดที่แข็งกร้าวของนายดูแตร์เต ที่เรียกร้องให้สังคมช่วยกันสังหารผู้ค้ายาเสพติดและฆ่าผู้ติดยาเสพติด ปรากฏว่า มีบรรดาพ่อค้ายาเสพติดและผู้ติดยาเสพติด แห่เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้าที่นายดูแตร์เตจะสาบานตนรับตำแหน่ง ก็มีคนเหล่านี้เข้ามอบตัวก่อนแล้วจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าจะถูกสังหารตามนโยบายของดูแตร์เต
ข่าวระบุ ผู้ที่เข้ามอบตัวนั้น กว่าครึ่งมาจากเมืองปาเซย์ , เกซอน , คาลูคัน , ซัมบวงกา , จังหวัดไรซาล , จังหวัดอิซาเบลา และแคว้นคารากา โดยที่เมืองซัมบวงกาถือว่ามีผู้เข้ามอบตัวมากที่สุดคือ 800 คน ตามด้วยจังหวัดไรซาล 762 คน , เมืองปาเซย์ 362 คน , เมืองเกซอน 200 คน และคาลูคัน 200 คน
ทั้งนี้ รายงานแจ้งว่า การมอบตัวแก่ตำรวจครั้งใหญ่มีขึ้นหลังจากที่นายดูแตร์เตเตือนไปยังนายกเทศมนตรีทั้ง 15 คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดว่า คนเหล่านี้จะถูกปฏิบัติเยี่ยงผู้ก่ออาชญากรรมทันทีที่ตนขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่นายดูแตร์เตไม่ได้เปิดเผยชื่อคนเหล่านี้ว่าคือใครบ้าง
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายดูแตร์เต ได้ออกมากล่าวหาตำรวจระดับสูง 5 นาย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และประกาศจะรับผิดชอบต่อการปราบปรามที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 30 ราย นับตั้งแต่ต้นเข้ารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
