รายงานพิเศษ : ฉลอง40ปีสัมพันธ์ ไทย-เวียดนาม

ปี 2559 นี้เป็นปีที่ไทยและเวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันครบ 40 ปีแล้ว โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้จัดงานซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญดังกล่าวขึ้น คือการเปิดตัวตราสัญลักษณ์ครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ น.ส.จิราพร พนมสวย อายุ 19 ปี นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ ภายใต้แนวคิดการออกแบบตราสัญลักษณ์ ประกอบด้วยธงชาติไทยและเวียดนาม พร้อมสถานที่สำคัญและดอกไม้ประจำชาติ ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดารามและดอกราชพฤกษ์ของไทย กับสุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์และดอกบัวของเวียดนาม จัดวางซ้อนบนเลข 40 อย่างกลมกลืน เพื่อแสดงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างไทยกับเวียดนาม

การเปิดตัวตราสัญลักษณ์ดังกล่าวถือเป็นกิจกรรมแรกเพื่อเฉลิมฉลอง 40 ปีความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม และจะตามมาด้วยกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งจะเป็นการจัดงานร่วมกันทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันวิชาการต่างๆ ทั้งในไทยและในเวียดนาม ภายใต้แนวคิด “เข้าสู่ทศวรรษที่ 5 ของความสัมพันธ์ : เดินหน้าสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง”

ไทยและเวียดนามมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยามาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น กระทั่งใน จ.อุดรธานียังมีบ้านที่ลุงโฮ หรือท่านโฮจิมินห์ เคยมาพักสมัยเคลื่อนไหวเพื่อจัดตั้งขบวนการกู้ชาติเวียดนาม ซึ่งเราอาจไม่ค่อยได้นึกถึงเท่าใดนัก และแม้ใครหลายคนชอบมองเวียดนามว่าเป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจของไทย แต่ในความเป็นจริงแล้วคนเวียดนามไม่ได้มีทัศนคติในเชิงลบกับคนไทย ในทางตรงกันข้าม กลับมีความนิยมไทยสูง สินค้าไทยได้รับความนิยมอย่างมากในเวียดนาม อีกทั้งเวียดนามถือเป็นเพียงประเทศเดียวในอาเซียนที่มีสถานะเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” กับไทย โดยได้มีการยกระดับความสัมพันธ์สู่ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ตั้งแต่ปี 2556

ที่ผ่านมามีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมกันมาแล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่งก็มีผลความคืบหน้าในความร่วมมือด้านต่างๆ เป็นที่น่าพอใจ โดยในการประชุมร่วมกันของคณะรัฐมนตรีไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 ได้วางเป้าหมายของการเดินไปสู่ทศวรรษที่ 5 ของความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม โดยมุ่งเน้นการมองไปข้างหน้าเพื่อความร่วมมือในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

Advertisement

หัวใจสำคัญคือการส่งเสริมให้ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนของทั้งสองประเทศได้มีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลอง 40 ปีของความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม และมุ่งเน้นให้มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นด้วย

for01310159p2

กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-เวียดนาม จึงครอบคลุมหลากหลายมิติ นอกจากการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์แล้ว บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ยังจัดทำไปรษณียากรที่ระลึกร่วมกับไปรษณีย์เวียดนาม โดยใช้ภาพหุ่นกระบอกไทยและหุ่นกระบอกน้ำของเวียดนามเป็นสื่อในการฉลองความสัมพันธ์ ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 5 สิงหาคมนี้

Advertisement

ขณะที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้สนับสนุนการจัดทำงานวิจัย “ไทยกับการกู้ชาติเวียดนาม” โดย ดร.ธัญญาทิพย์ ศรีพนา นักวิจัยสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อจัดพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งจะถ่ายทอดให้เห็นถึงช่วงหนึ่งที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทย-เวียดนามที่ยังอาจไม่เป็นที่รับรู้กันในวงกว้างมากนัก นอกจากนี้

เครือข่ายภาควิชาการโดยสถาบันเอเชียศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่ผู้ประสานงานหลักยังจะจัดสัมมนาส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เพื่อให้เกิดความตระหนักรู้และตื่นตัวเกี่ยวกับเวียดนามมากขึ้น

ในส่วนท้องถิ่น จังหวัดของไทยและเวียดนามที่สถาปนาความสัมพันธ์เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันรวมแล้ว 14 คู่จังหวัดก็จะจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันตลอดทั้งปี อาทิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม โดยกรุงเทพมหานครและกระทรวงมหาดไทยร่วมให้การสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะลงนามสถาปนาความสัมพันธ์แบบบ้านพี่เมืองน้องอีกอย่างน้อย 3 คู่จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่นกับนครดานัง จ.ตราดกับเกียนยาง และ จ.ตราดกับก่าเมาในปีนี้

ด้านกระทรวงวัฒนธรรมก็มีแผนจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมของเวียดนาม อาทิ การนำศิลปะการแสดงหลากหลายรูปแบบไปจัดแสดงที่เวียดนาม และการจัดเทศกาลภาพยนตร์ โดยจะมีการจัดสัปดาห์วัฒนธรรมไทยขึ้นในเวียดนามในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในเวียดนามก็จะจัดเทศกาลไทยที่กรุงฮานอย รวมถึงที่นครโฮจิมินห์เพื่อส่งเสริมความนิยมไทยในหมู่คนเวียดนามด้วย

นายปัญญรักษ์ พูลทรัพย์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานการฉลองครบรอบ 40 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนามว่า ไทยมีความสัมพันธ์กับเวียดนามมาอย่างยาวนานและลึกซึ้งมากกว่า 40 ปี นับตั้งแต่ที่ องค์เชียงสือ หรือ เหวียน ฟุก แอ๋งห์ ที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของรัชกาลที่ 1 ก่อนจะกลับไปสู้กับกบฏไตเซินจนได้รับชัยชนะและสถาปนาเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เหวียนที่เมืองเว้ หรือการเดินทางเข้ามาของท่าน โฮจิมินห์ และขบวนการกู้ชาติเวียดนามในช่วงต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชจากเจ้าอาณานิคม โดยจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลอง 40 ปีความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามตลอดทั้งปี

ด้าน นายเหวียน ตัด ถั่น เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย แสดงความยินดีอย่างยิ่งที่ทางการไทยให้ความสำคัญกับการครบรอบ 40 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ในฐานะเอกอัครราชทูตมุ่งมั่นจะผลักดันให้เกิดความร่วมมือทั้งด้านความมั่นคง แรงงาน และการศึกษา ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศ และสถานทูตจะจัดพิมพ์หนังสือเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์นี้ ซึ่งรวมถึงเรื่อง “อนัมสยามมิตร” พระราชนิพนธ์ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศเวียดนามเมื่อปี 2536

ขณะที่ นายประจวบ ไชยสาส์น นายกสมาคมมิตรภาพไทยเวียดนาม กล่าวว่า ตลอดปีนี้สมาคมจะจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญกว่า 12 กิจกรรม อาทิ คาราวานมิตรภาพไทย-เวียดนาม การแสดงสินค้าไทยที่นครโฮจิมินห์ การเปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยและเวียดนามที่เมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม การจัดสัมมนาโอกาสการค้าการลงทุนไทย-เวียดนาม ที่ จ.อุดรธานี และการประกวดสุนทรพจน์ของชาวเวียดนามที่สามารถพูดภาษาไทยได้ รวมทั้งการจัดทำรายการโทรทัศน์ “หลอมใจไทย-เวียดนาม” เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจระหว่างกันมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม ที่มีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน โดย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม กล่าวว่า แม้สภาธุรกิจจะตั้งขึ้นมาได้ไม่นาน แต่ก็ได้ตั้งเป้าว่าภายในปี 2563 การค้าระหว่างสองประเทศจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน โดยต้องศึกษาตลาดและหาคนเวียดนามที่มีความรู้ด้านธุรกิจเพื่อมาทำงานคู่กับทูตพาณิชย์ของไทย ปัจจุบันมีนักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จในเวียดนามแล้วกว่า 300 ราย ทั้งนี้เห็นว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีเสน่ห์และน่าลงทุน จึงตั้งเป้าให้ผู้ประกอบการคนไทยเข้าไปลงทุนให้ติด 1 ใน 10 ของเวียดนามด้วย

เชื่อว่ากิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 40 ปีความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามตลอดทั้งปีนี้ จะไม่เพียงแต่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่ยังจะช่วยปูทางให้เราก้าวไปสู่ทศวรรษที่ 5 ของความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันอย่างเข้มแข็งต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image